จากกรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย ทำให้มีลูกเรือที่โดดหนีจมนํ้าเสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย และจับลูกเรือชาวไทยและชาวเมียนมา 31 คน พร้อมยึดเรือประมง ส.เจริญชัย 8 กลับไปบริเวณเกาะย่านเชือก ฝั่งเมียนมา อ้างเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเข้าไปวางอวนหาปลาในเขตประเทศเมียนมา เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณทะเลอันดามัน ห่างเกาะพยาม จ.ระนอง ประมาณ 12 ไมล์ทะเล หลังเกิดเหตุรัฐบาลอ้างว่าได้ให้กระทรวงการต่างประเทศ ประสานกับรัฐบาลทหารเมียนมา ปล่อยตัวลูกเรือไทยทั้ง 4 คนทันที และได้รับการตอบรับที่ดีจากทางการเมียนมาแล้วนั้น

หลังจากผ่านไปราว 1 สัปดาห์ ยังไม่มีวี่แววว่าทางการเมียนมาจะปล่อยลูกเรือคนไทยตามที่รับปากไว้แต่อย่างใด ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพเรือ Royal Thai Navy” ได้โพสต์ภาพของลูกเรือชาวไทย พร้อมข้อความระบุว่า “ปลอดภัยดีทุกคน” ทัพเรือภาคที่ 3 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้ประสานงานกับกองทัพเรือเมียนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบว่า ณ ปัจจุบันเรือ ส.เจริญชัย 8 จอดเรือที่ท่าเทียบเรือบุเรงนอง (ที่ 2) ลูกเรือทั้งหมดจำนวน 31 คนจะถูกปล่อยหลังจากได้ดำเนินการทางการตรวจคนเข้าเมืองของเมียนมาเรียบร้อย และยังคงปลอดภัยดีทุกคน กองทัพเรือจะพยายามทุกวิถีทางในการพาคนไทย 4 คนกลับบ้าน จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คาดว่าจะมีการปล่อยตัว 4 คนไทย วันที่ 6 ธ.ค.67 มี พล.ร.ต. กนกพล พิมพ์ทอง ผบ.ฐานทัพเรือพังงา เป็นผู้แทนกองทัพเรือในการรับตัว

เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีการปล่อยตัวลูกเรือประมงไทย 4 คนที่ถูกทางการเมียนมาจับตัวว่า ขบวนการทั้งหมดวันนี้น่าจะปล่อยตัวได้ ตอนนี้ตัวมาอยู่ที่เกาะสอง ฝั่งตรงข้าม จ.ระนอง แล้ว จากนี้ต้องผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม รวมถึงคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ได้คุยกันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพียงแต่รอกระบวนการทางเขา เมื่อถามว่าการปล่อยตัวครั้งนี้มีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่น่ามีเงื่อนไขอะไร ขณะนี้ได้กันตัว 4 คนไทยออกมา ส่วนลูกเรืออีก 27 คนที่เป็นคนเมียนมา ให้เป็นไปตามกระบวนการของเขาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่เราได้ขอร้องให้คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ส่วนเรือประมงที่ถูกควบคุมไว้คงต้องมีกระบวนการในการประสานงานนำกลับมาอีกครั้ง หลังประชุมร่วมกันของคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นแล้วน่าจะได้ข้อสรุปความชัดเจนของทั้งหมด

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีแนวทางอย่างไรหากมีเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรายังไม่รู้รายละเอียด ต้องรอฟังทั้งหมดก่อนว่าเป็นอย่างไร หากพบการกระทำที่เกินเลยจะประท้วงเหมือนครั้งนี้ และการเจรจาต้องมี ที่ผ่านมามีการเจรจากันมาตลอด ขอดูรายละเอียดการสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายต้องทำมาตรการทางศุลกากรอยู่แล้ว คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

เวลา 11.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานการเตรียมพร้อมรับ 4 คนไทย คาดว่าช่วงบ่ายวันที่ 6 ธ.ค. จะส่งคนไทยมายังท่าเรือประภาคาร จ.ระนอง ขณะนี้อยู่ระหว่างทำรายละเอียดของคณะกรรมการส่วนชายแดนท้องถิ่นหรือ TBC ของทั้งสองประเทศ กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานแผนการดูแลเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 4 คนและครอบครัว ทีมสุขภาพจิต รพ.ระนอง จะนำรถพยาบาลไปรับทั้ง 4 คน และนำมาตรวจร่างกายและประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น จากนั้นจะประเมินปัญหาเรื่องการตอบสนองของจิตใจต่อความเครียดรุนแรง เพื่อป้องกันโรคเครียดภายหลังเผชิญเหตุการณ์รุนแรง ขณะนี้ทราบกำหนดการเบื้องต้นว่า ลูกเรือทั้ง 4 คนจะออกเดินทางจากเกาะสอง เวลา 12.30 น. โดยสารเรือสปีดโบ๊ต ใช้เวลา 30 นาที ถึงฝั่งระนอง

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการปล่อยตัวลูกเรือประมงไทยว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ สั่งการให้ผู้แทนกรมการกงสุลเดินทางไปยังชายแดน จ.ระนอง เพื่อเตรียมรับคนไทยทั้ง 4 คนกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว ขณะนี้คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ TBC ฝั่งไทยได้ประสานผู้แทน TBC ฝั่งเมียนมา เกี่ยวกับมาตรการในการส่งลูกเรือทั้ง 4 คนกลับไทย หวังว่าจะได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด ยังไม่มีการยืนยันเรื่องระยะเวลารวมถึงวิธีการส่งตัวว่าจะให้เรือทางการไทยเข้าไปรับ หรือทางเมียนมาจะนำมาส่งที่น่านน้ำไทยฝั่ง จ.ระนอง ฝ่ายไทยเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา แต่ต้องเคารพในกฎหมายของฝ่ายเมียนมาด้วย

อธิบดีกรมสารนิเทศกล่าวว่า การส่งตัวคนไทยกลับเป็นผลมาจากการเจรจาทางการทูต ไม่มีการเรียกค่าไถ่ตามที่มีกระแสข่าว การทำหนังสือถึงทางการเมียนมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่การประท้วง เป็นเพียงการประสานงานทางการทูตในระดับสูงสุด รมว.ต่างประเทศเป็นผู้เจรจาและได้รับความร่วมมือที่ดี ส่วนเรือที่ถูกทางเมียนมาจับกุมเป็นเรือประมง ไม่ใช่เรือขนอาวุธเชื่อมโยงกับกลุ่มว้าแดงตามกระแสข่าว และยังไม่มีรายงานจากฝั่งเมียนมาเช่นกันว่าเรือดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับเรื่องอื่น ขณะนี้ยังไม่มีการประสานส่งเรือกลับมายังไทยแต่อย่างใด

วันเดียวกัน นางปริญภมร ธัญชร อายุ 57 ปี ภรรยาไต้ก๋งเรือ ส.เจริญชัย8 เดินทางจากบ้านใน จ.พังงา ตั้งแต่เช้ามืดมาที่ท่าเรือ จ.ระนอง รอข้ามไปที่เกาะสอง ประเทศเมียนมา เตรียมรับตัวสามีคือ นายวิโรจน์ สพานทอง ณ นคร อายุ 69 ปี ไต๋ก๋งเรือ ส.เจริญชัย 8 และลูกน้องชาวไทยอีก 3 คน คือ นายสุนันท์ มงกุฎทอง อายุ 68 ปี นายสมปอง วิวัฒน์ อายุ 61 ปี และนายถาวร พรหมนิมิตร อายุ 64 ปี ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางปริญภมรทางโทรศัพท์บอกว่าตอนนี้ตนได้ข้ามฟากมาพบสามีและลูกน้องแล้ว รู้สึกดีใจมาก สบายดีกันทุกคน ตนได้ซื้อของกินไปฝากสามีและคนที่ถูกจับด้วย ส่วนจะได้เดินทางกลับมาวันนี้หรือไม่ ต้องรอเจ้าหน้าที่เมียนมาและเจ้าหน้าที่ไทยพูดคุยตกลงกันก่อน และจะรอจนถึงช่วงเย็น หากสามีไม่ได้รับการปล่อยตัว จะเดินทางกลับมารอที่ฝั่ง จ.ระนอง เพื่อรอสามีกลับบ้านพร้อมกัน

มีรายงานว่า หลังจากรอคอยตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ตลอดทั้งวันยังไม่มีวี่แววว่าทางการเมียนมาจะยอมปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย พร้อมเรือ ส.เจริญชัย 8 ที่ยึดไป ขณะที่ทางการไทยได้ส่ง พล.ร.ต.กนกพล พิมพ์ทอง ผบ.ฐานทัพเรือพังงา เป็นผู้แทนกองทัพเรือ เดินทางไปเจรจา และเมื่อประสานไปยังคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ทราบว่ากำลังรอคำสั่งปล่อยตัวจากทางรัฐบาลเมียนมาส่วนกลางอยู่ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่มีอำนาจเจรจาหรือปล่อยตัว การปล่อยตัวจะต้องได้รับคำสั่งโดยตรงจากรัฐบาลทหารเมียนมาเท่านั้น ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมา ต้องการให้ดำเนินคดีกับกลุ่มลูกเรือประมงไทย ในข้อหารุกล้ำน่านน้ำและลักลอบเข้าเมืองให้เสร็จสิ้นก่อน ถึงจะยอมปล่อยตัวตามคำร้องขอของรัฐบาลไทย และจะไม่มีการเจรจาใดๆที่จะส่งผลให้ฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมาเสียเปรียบ เนื่องจากฝ่ายเมียนมายืนยันว่าฝ่ายไทยรุกล้ำน่านน้ำเข้าไป