“ไฟแนนซ์โหด” ถือมีดสปาร์ตา บุกยึดรถยามวิกาล เจอเจ้าของบ้านยิงสวนเจ็บ

Author:

ราชบุรี แก๊งไฟแนนซ์โหด ถืออาวุธมีดสปาร์ตาครบมือ บุกยึดรถยามวิกาล ถูกเจ้าของบ้านชักปืนยิงสวนเจ็บ ก่อนพากันหลบหนี ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี เร่งเก็บภาพวงจรปิดภายในจุดเกิดเหตุ เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาทำการสอบสวน

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2567 พ.ต.ท.ประมาณ ปลาทอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกายและถูกอาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านเลขที่ 256/663 ซอยไทยรามัญ อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.กฤษฏิ์ชัช โพธิ์ไพบูลย์ สวป.สภ.เมืองราชบุรี, พ.ต.ท.ชุมพล สุขภักดี สว.สส.สภ.เมืองราชบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิประชานุกูลราชบุรี

พบที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ภายในบริเวณบ้านไม้สองชั้น พบปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืน ขนาด 9 มม. 1 นัด ตกอยู่ที่พื้นบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ และพบ นายสุนทร หรือ ตุ่ม ดอนไพรนุช อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน ชาว อ.เมืองราชบุรี ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดสปาร์ตา บาดที่ข้อมือขวาและซ้ายจนได้รับบาดเจ็บ และพบ นายรังสรรค์ หรือ แม๊ก สุวรรณลือ อายุ 33 ปี ชาว อ.เมืองราชบุรี ซึ่งเป็นคู่เขยของเจ้าของบ้าน ตลอดจนภรรยาและญาติพี่น้องอยู่ในอาการตื่นตกใจ และยังพบอาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ กล็อก ของนายสุนทร เจ้าของบ้าน มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และอาวุธมีดสปาร์ตา ยาว 1 ฟุต ซึ่งเป็นของ นายวสันต์ หรือ ไฮ ธนทวีธรรม อายุ 44 ปี ชาว อ.เมืองราชบุรี ที่ใช้บุกรุกเข้ามาก่อเหตุจะทำร้ายร่างกาย นายสุนทร และ นายรังสรรค์ วางอยู่บนโต๊ะหน้าบ้านหลังเกิดเหตุ

ส่วน นายวสันต์ ที่บุกจะเข้ามาทำร้ายคนในบ้าน ถูก นายสุนทร ใช้อาวุธปืนยิงเข้าบริเวณหน้าท้องซ้ายทะลุก้น 1 นัด หลังถูกยิง พวกที่มาด้วยกันอีก 3 คน ได้นำตัวไปรักษาที่รพ.ราชบุรี ซึ่งอาการปลอดภัยแล้ว

จากการสอบสวน นายสุนทร ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนกับ นายรังสรรค์ ได้นั่งพักผ่อนอยู่บริเวณโต๊ะหน้าบ้าน จนช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. นายวสันต์ ได้ขี่รถ จยย.โดยไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้น มาพร้อมกับพรรคพวกอีก 3 คนขับรถยนต์เก๋งมาจอดบริเวณหน้าบ้านของตน ก่อนที่นายวสันต์ จะเดินเข้ามาภายในพื้นที่บ้านของตน ที่ตนนั่งอยู่กับน้องเขยที่โต๊ะหน้าบ้าน โดยอ้างว่าจะมายึดรถยนต์กระบะ คันที่ตนไปออกรถมาจากบริษัทรถยนต์แล้วขับประสบอุบัติเหตุ และมีการขอเคลมซ่อมกับทางบริษัทรถยนต์ จนมีการฟ้องร้องและขึ้นศาล จนให้นำรถไปซ่อมที่อู่ใน จ.นครปฐม ซึ่งตนขอดูเอกสารในการยึดรถ แต่ นายวสันต์ ก็บอกไม่มี แถมถามตนว่า “แล้วจะเอาไงกับผม” ก่อนจะชักมีดสปาร์ตาจะจ้วงแทงตน และข่มขู่น้องเขยตน

ตนเห็นท่าไม่ดี เพราะเห็นพรรคพวกของ นายวสันต์ พยายามเข้ามาในบ้านพร้อมอาวุธมีดครบมือ เกรงคนในบ้านจะได้รับอันตรายจึงเข้าสู้กับ นายวสันต์ ก่อนจะชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ออกมาขู่ เนื่องจากพรรคพวกอีก 3 คนที่มาด้วยกับ นายวสันต์ ได้ถือมีดอีดาบบุกรุกเข้าจะทำร้ายตนและน้องเขย ก่อนปืนจะลั่นขึ้นหนึ่งนัด ถูก นายวสันต์ จนได้รับบาดเจ็บ แต่ชายอีก 3 คนที่มาด้วย จะใช้อาวุธมีดวิ่งเข้ามาทำร้ายตน และวิ่งไล่ฟันน้องเขยตน จนภรรยาของตนต้องออกมาห้าม ก่อนพรรคพวกของ นายวสันต์ จะพาตัวออกจากบ้านหลบหนีไป ส่วนตัวได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดบาดที่ข้อมือทั้งสองข้าง ขณะ นายวสันต์ จะจ้วงแทงตนจนตนต้องเอามือรับ ภรรยาของตนจึงรีบโทรไปแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ขณะที่ นายรังสรรค์ น้องเขยของ นายสุนทร เล่าว่า ตนกับ นายสุนทร ซึ่งเป็นคู่เขยกัน ได้นั่งเล่นพักผ่อนอยู่บนโต๊ะหน้าบ้าน จู่ๆ นายวสันต์ กับพวกอีก 3 คน ได้ขับรถเก๋ง 1 คัน และรถ จยย. 1 คัน มาจอดไว้หน้าบ้าน ก่อนที่ นายวสันต์ จะเดินเข้ามา ถามหาว่าใครเป็นคนโทรคุยกับน้อง ซึ่งตอนนั้นพี่เขยของตนบอกว่าฉันเอง ก็ว่าใส่พี่เขยตนก่อนจะพูดอีกว่า “แล้วจะเอาไงกับผม” พี่เขยของตนจึงถามกลับไปว่า แล้วจะเอาไง ก่อน นายวสันต์ จะชักมีดที่เหน็บเอวมา จะจ้วงแทงพี่เขยตนและขู่ทำร้ายตนด้วย จนพี่เขยเข้าต่อสู้จนยื้อยุดกันพักหนึ่งก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนชายฉกรรจ์อีก 3 คนวิ่งถือมีดเข้ามาจะทำร้ายตน จนมีการวิ่งหนีกันชุลมุน ก่อนพี่สาวของแฟน คือ ภรรยาพี่เขย ต้องรีบเข้าห้าม จน นายวสันต์ และพวกหนีไป

นายรังสรรค์ ยังบอกต่ออีกว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 3 วันที่แล้ว เวลาประมาณ 3 ทุ่ม พวกของ นายวสันต์ ก็เคยมาที่บ้าน และบอกพ่อตาของตนว่า จะมายึดรถของพี่เขย แต่วันนั้นพี่เขยไม่อยู่ จึงฝากเรื่องไว้กับพ่อตา จนวันนี้ทั้งหมดได้บุกรุกและเอาอาวุธจะเข้ามาทำร้ายพี่เขยและตน ซึ่งทั้ง 2 ครั้งที่กลุ่มของนายวสันต์ จะมายึดรถยนต์นั้นไม่เคยมีเอกสารหรือหลักฐานในการยึดรถมาแสดง แถมยังมาในเวลากลางคืนทั้ง 2 ครั้ง ที่สำคัญรถยนต์ที่ นายวสันต์ อ้างจะมายึดนั้น ทางบริษัทรถก็รู้ดีว่า ซ่อมอยู่ที่อู่รถใน จ.นครปฐม และรถซ่อมอยู่จะมายึดได้อย่างไร ส่วนพี่เขยและครอบครัวของตน ไม่เคยมีปัญหากับพวก นายวสันต์ มาก่อน คิดว่าน่าจะเป็นปัญหาเรื่องการยึดรถ

ด้าน นางเสาวนีย์ ภรรยาของ นายสุนทร ให้ข้อมูลว่า ปัญหาน่าจะเกิดจากเรื่องที่จะเข้ามาขอยึดรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่ส่งซ่อมที่อู่ใน จ.นครปฐม และจากที่สังเกต ไฟแนนซ์รู้ว่ารถส่งซ่อมยังจะมายึดอะไร การมาในแต่ละครั้งไม่มีเอกสารหรือหลักฐานใดๆ มาแสดง และยังมาในช่วงเวลากลางคืนยามวิกาล แบบนี้เป็นการกระทำที่สมควรหรือไม่

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้คลิปภาพกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม นายวสันต์ ได้ขับรถ จยย.และรถเก๋งมาจอดหน้าบ้านคู่กรณี โดยใส่กางเกงขาสั้นและไม่สวมเสื้อ แต่พกอาวุธมีดสปาร์ตาเหน็บไว้เอว พร้อมตะโกนต่อว่าและถามคู่กรณีว่า ใครเป็นคนโทรหาน้อง ก่อนจะปรี่เข้ามาในบ้านและพูดคุยกับคู่กรณีที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน และมีปากเสียงกันกับคู่กรณี จึงชักมีดที่พกมาจะจ้วงแทงคู่กรณี แต่คู่กรณีซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ต่อสู้และชักอาวุธออกมาขู่ จึงยื้อยุดกัน จนมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ถูกนายวสันต์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนพรรคพวกของ นายวสันต์ ได้พยายามใช้อาธุมีดไล่ฟันคนในบ้าน ก่อนจะพากันหลบหนีไป

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เก็บภาพกล้องวงจรปิดภายในจุดเกิดเหตุทั้งหมด ก่อนอายัดตัว นายวสันต์ และติดตามตัวพรรคพวกทั้ง 3 คนของ นายวสันต์ พร้อมเชิญตัว นายสุนทร ไปสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สภ.เมืองราชบุรี โดยจะไปสอบปากคำ นายวสันต์ ที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดไปให้การอย่างละเอียด เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *