จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้มีการรายงานเรื่องราวร้องเรียนจากบุคลากรการแพทย์แถวชายแดน หลังเจอเคสที่หญิงตั้งครรภ์ข้ามจากเมียนมา เพื่อมาผ่าตัดคลอด เพื่อต้องการใบเกิดไปใช้สิทธิ์รักษาฟรี ซึ่งเจอเคสเช่นนี้เยอะขึ้นเรื่อย ๆ จนเกรงว่าจะกระทบการรองรับผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์เช่นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า เคสหญิงตั้งครรภ์ข้ามมารักษาจากพม่า สิทธิ์ชำระเงินเอง เป็น case GA 30 wks PPROM with Breech โดย advice เรื่องแผนการรักษา แม่ที่ต้องนอนนาน ค่าผ่าตัดคลอด ลูกที่ต้องนอน NICU นาน ค่าใช้จ่ายรวม ๆ กันน่าจะหลายแสนรวมแม่กับลูก
คนไข้มาพร้อมกับล่ามที่พูดภาษาไทยได้ บอกรู้ว่าหลังจากที่ลูกคลอด เขาสามารถเอาใบรับรองการเกิดลูกไปทำสิทธิ์เพื่อรักษาฟรีได้ บอกตรง ๆ พยาบาลอึ้งค่ะ เขารู้กันขนาดนี้ ส่งต่อกันไปขนาดนี้ แล้วประเทศไทยจะแบกรับต่อไปไหวแค่ไหนอะ ไม่ใช่เฉพาะแค่ค่ารักษา แต่ภาระงานที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงระบบสาธารณสุขของคนไทยที่ล่าช้าลงเพราะมีต่างชาติเข้ามาแทรกแซงในระบบสาธารณสุขไทยมากขึ้นหลายเท่า คนไข้คนไทยมา รพ. กว่าจะได้ตรวจเพราะรอคิวนานมากขึ้น ไปตรวจ OPD หรือ แอดมิดตามวอร์ด มีแต่ต่างชาติเต็มไปหมด
สำหรับ ประเทศไทยมี กองทุนสิทธิ ท.99 (สิทธิบุคคลผู้มีปัญหาสถานะและสิทธิ) จริง จัดตั้งขึ้นเพื่อใช้รับรองปัญหาต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิ์การรักษาใด ๆ ซึ่งเมื่อคนไข้ได้สิทธิ์นี้จะไม่ได้จ่ายเงินค่าการรักษาเลย โดยจะดึงเงินจากกองทุนมาช่วยซัพพอร์ต ค่าใช้จ่ายของคนไข้ให้กับโรงพยาบาลที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายจากคนไข้เหล่านี้
ซึ่งตอนนี้ปัญหาคือ คนต่างด้าวส่งต่อกันไปทั่วแล้วว่าประเทศไทยเราสามารถซัพพอร์ตพวกเขาได้จากสิทธิ์ตรงนี้ ไหนจะการซื้อบัตร UC ที่ได้สิทธิการรักษาเทียบเท่ากับบัตรทองคนไทยทุกอย่าง อีกไม่นานระบบสาธารณสุขไทยคงล่มจม ถ้ารัฐบาลหรือกระทรวงไม่แก้ไขปัญหาตรงนี้ สงสารแต่บุคลากรไทยที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น และคนไทยที่เสียภาษีอย่างถูกต้องที่ต้องมาเสียผลประโยชน์จากช่องโหว่ที่ประเทศเราทำขึ้นมา สำหรับบุคลากรสาธารณสุขคนหนึ่ง เราว่าตอนนี้มันเกินคำว่ามนุษยธรรมไปมากแล้วนะ เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด
อยากให้ตรวจสอบสิทธิ์ ท.99 ที่จัดตั้งขึ้นมาตรงนี้ มาจากภาษีประชาชนคนไทยไหม ตอนนี้ยอดคลอดที่นี่ ต่างด้าวมากกว่าคนไทย 2 เท่าแล้ว เดือนที่แล้วคนไทยคลอด 80 ต่างด้าว 160 คน
ขอบคุณ Drama-addict