เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2567 แม่อายุ 33 ปี มารดา ได้นำใบตรวจร่างกายการถูกล่วงละเมิดทางเพศของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 4 ขวบเศษ บุตรสาว มอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อใช้ในการเอาผิดกับพ่อแท้ๆของลูกสาว ซึ่งเป็นสามีของเธอ หลังจับสังเกตได้ว่าลูกสาว แสดงพฤติกรรมและมีอาการผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด จนมารู้ทีหลังว่าลูกสาวถูกพ่อกระทำชำเรา มาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยผู้เป็นแม่ เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวของเธอมีด้วยกัน 4 คน ประกอบด้วย สามี และลูกสาวจำนวน 2 คน ซึ่งคนโตเป็นผู้หญิง อายุ 15 ปี กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ชั้นมัธยม ปีที่ 3 ส่วนลูกสาวคนสุดท้อง วัยเพียง 4 ขวบเศษ เพิ่งเข้าเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โดยอาศัยอยู่ในห้องเช่า รายเดือน ในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งยอมรับว่าเธอทำงานหากินในช่วงกลางคืน จึงทำให้เป็นช่องว่างให้สามีคิดลงมือกับลูกแท้ๆ ของตัวเองได้ลงคอ
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ช่วงเดือนที่ผ่านมา ลูกสาวคนเล็ก มีพฤติกรรมแตกต่างกว่าเดิม จากเด็กที่มีนิสัยยิ้มแย้มแจ่มใสร่าเริงเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป เธอจึงเริ่มจับสังเกตเรื่อยมา จนลูกสาวบ่นว่าเจ็บก้นและอวัยวะเพศ ประกอบกับที่แม่ของเธอที่เสียไปแล้วคงเป็นห่วงหลานสาวได้มาเข้าฝันบอกทำนองว่าพ่อมันคิดไม่ดีกับตัวลูกสาว ที่ผ่านมาเธอก็พยายามถามลูกสาวมาตลอด แต่ด้วยความกลัวของเด็ก ลูกสาวยังไม่กล้าเปิดปากพูด เหมือนว่าพ่อที่มีนิสัยดุสั่งลูกสาวห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร จนกระทั่งเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ลูกสาวเริ่มมีอาการอ่อนเพลียไม่มีแรงและบ่นว่าหนูเจ็บตรงนั้นมากกว่าเดิม จึงพาลูกสาวขับรถไปอยู่ที่ห้องพี่สาว ก่อนที่เด็กจะเปิดปากยอมรับว่า ถูกพ่อแท้ๆ ล่วงละเมิดทางเพศมาสักระยะหนึ่ง ก่อนที่เธอจะไปต่างประเทศเมื่อช่วง 3 เดือนก่อน
ซึ่งมีครั้งหนึ่งลูกสาวคนโตเห็นพ่อเห็นกำลังทำไม่ดีกับลูกสาวคนเล็กเลยเข้าไปช่วยไว้แต่ลูกสาวคนโตก็ไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวพ่อที่มีพฤติกรรมการเสพยา เมื่อคำพูดนั้นมันออกมาจากปากลูกสาวคนเล็ก ทำให้หัวใจของเธอแทบแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งตัวพ่อเด็กยังไม่วาย ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน อาศัยช่วงที่เธอออกไปทำงานล่วงละเมิดลูกสาวของตัวเองซ้ำ แบบไร้ความปราณีจากผู้เป็นพ่อ เธอจึงพาตัวลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เฝ้ารอดูผลกระทั่งทราบว่าอวัยวะเพศมีการถูกล่วงละเมิดจริง จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว ซึ่งตัวพ่อเด็กเองยังไม่รู้ตัวว่าเธอแอบมาแจ้งความจับกุมดำเนินคดี