ล่าสุดวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุในพื้นที่ ต.คลองกวาง อ.นาทวี จ.สงขลา พบกับ นางเสน แก้วหนู อายุ 47 ปี น้าสาว และ นายสุนัชชา จันทร์นุ่น อายุ 24 ปี หลานชาย ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่สุนัขวิ่งมานอนก่อนจะเสียชีวิตตรงที่จอดรถบริเวณหน้าบ้าน

ก่อนจะพาผู้สื่อข่าวไปดูลูกสุนัขตรงจุดที่สุนัขนอนให้นมลูกของมัน และไปดูจุดที่ฝังสุนัขอยู่บริเวณป่ายาง ซึ่งระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยซึ่งมีสุนัขตัวสีน้ำตาลเพศผู้เดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ที่ฝังสุนัขแม่หมาลูกอ่อน ซึ่งทราบว่าเป็นคู่กับสุนัขแม่หมาลูกอ่อนทุกครั้งจะไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นคู่ตลอด

จากการสอบถาม นายสุนัชชา จันทร์นุ่น อายุ 24 ปี (หลานชาย) ได้เล่าว่า ตอนนั้นสุนัขตัวสีน้ำตาลเพศผู้ได้วิ่งออกไปข้างกับสุนัขแม่หมาลูกอ่อนตามปกติ ต่อมาสุนัขทั้ง 2 ตัว ได้วิ่งกลับมาที่บ้านเห็นสุนัขแม่หมาลูกอ่อนโดนยิงกลับมา แต่ตัวสีน้ำตาลไม่โดนยิง ช่วงตอนกลับมาถึงบ้านเห็นสุนัขแม่หมาลูกอ่อนชักกระตุกและพยายามมองหาน้าสาว ซึ่งเป็นเจ้าของ 2 ครั้ง ตนจึงได้อุ้มแม่หมาไปที่ลูกมัน ตอนนั้นยังมีชีวิตอยู่แต่หายใจแผ่วๆ พอนอนให้นมลูกสักพักมันก็สิ้นลมไปเลย

พอรู้ว่าแม่หมาเสียชีวิตแล้ว ตนจึงรอน้องๆ กลับมาจากโรงเรียนก่อนจะช่วยกันนำไปฝัง ตนรู้สึกเสียใจมากสงสารลูกหมา รู้สึกโกรธมากที่คนยิงทำแบบนี้แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ไม่อยากกล่าวหาใคร ตอนนี้ตนอยากให้ผู้ใจบุญที่ต้องการจะรับลูกสุนัขเลี้ยงเพราะฐานะทางบ้านน้าสาวก็ลำบากด้วย จึงอยากให้ผู้ใจบุญรีบไปดูแลต่อ

เมื่อคุยสอบถามกับ นางเสน แก้วหนู เจ้าของสุนัข ซึ่งน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา ได้เล่าว่า ตนเองได้เลี้ยงสุนัขตัวดังกล่าวมานานกว่า 10 ปี แล้วก็หมาตัวอื่นๆ เลี้ยงจนแก่ตาย ส่วนที่หมาจะไปกับใครนั้นไม่เคยมี ซึ่งแม่หมาก็อยู่แถวแถวร้านค้าไม่ไกลจากบ้านตัวเอง ช่วงวันเกิดเหตุแม่หมาได้วิ่งมาทางร้านค้า แล้วก็มานอนตรงที่จอดรถ ครั้งแรกก็ไม่เห็นว่ามีเลือดติดมาด้วย คิดแค่ว่าไปนอนกลิ้งกับดินโคลนมา ตอนนั้นประมาณเกือบเที่ยง

และมาเห็นอีกทีช่วงเกือบบ่ายสาม มีคนมาบอกว่าหมาตนเองถูกยิง จึงเข้าไปดูพบว่าเป็นรอยรูกระสุนปืนเท่านิ้วก้อย ตอนแรกที่เห็นก็เอะใจว่ารอยเลือด หรือว่ารอยดินโคลน ส่วนภาพที่ถ่ายส่งไปตอนนั้น แม่หมายังไม่ได้เสียชีวิต หลานชายจึงอุ้มแม่หมาไปที่ลูกของมัน เพื่อจะให้นมแต่ไม่รู้ว่านมยังออกอีกไหม

หลังจากที่แม่มันเสีย ตนจึงได้นำข้าวมาคลุกกับปลากระป๋องมาให้ลูกมัน เพื่อดูว่ากินได้หรือไม่ ปรากฏว่าลูกมันก็กินได้ปกติ แต่ยังกินนมเป็นหลัก ตนรู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนเลี้ยงสุนัขเหมือนลูกคนหนึ่งและอีกอย่างมันก็ไม่เคยไปกัดชาวบ้านคนไหน แต่ถ้าไปกัดชาวบ้านก็ว่ากันอีกเรื่อง

ส่วนที่ตนลงโพสต์ในโซเชียลนั้น ตนไม่อยากจะเอาเรื่องใคร แค่เพียงต้องการหาผู้ใจบุญที่อยากจะรับลูกสุนัขไปเลี้ยง เพราะสงสารลูกของมันทั้ง 8 ตัว ส่วนคนที่ยิงก็ใจดำ ใจร้ายกว่าหมาอีก ที่จริงทุบตีก็ได้ ไม่น่าถึงกับยิงจนเสียชีวิต คนยิงทำไมไม่รักสัตว์.