“ภูเก็ต” วิปโยค ดินสไลด์คร่า 10 ศพ น่าน-แพร่วิกฤติ น้ำบ่าท่วมเมือง “อิ๊งค์” ไปช่วยวันนี้

Author:

ภัยพิบัติสยองเกาะภูเก็ต ดินภูเขา สไลด์โคลนถล่มบ้านเรือนวิลล่าหรู พังราบเป็นหน้ากลอง ตายเกลื่อน 10 ศพ บาดเจ็บระนาว 19 คน ยังสูญหายอีก 1 ราย สาเหตุจากฝนตก หนักตลอดคืนจนดินอุ้มน้ำไม่ไหว มีบ้านพังเสียหายกว่า 50 หลัง ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือยังไม่คลี่คลาย แพร่วิกฤติหนักน้ำล้นแม่น้ำยมไหลบ่า เข้าตัวเมืองย่านเศรษฐกิจการค้า ศูนย์ราชการจมบาดาลในพริบตา หนักกว่าปี 54 น่านยังอ่วมน้ำท่วม เต็มเมืองลามเข้าโรงพยาบาลและวัดภูมินทร์ กว๊านพะเยาเอาไม่อยู่ น้ำล้นท่วมถนนและชุมชนหลายร้อยหลัง เชียงรายยังทรงตัว น้ำโขงเพิ่มระดับทำให้ระบายช้า “นายกฯอิ๊งค์” ลงพื้นที่ลุยน้ำท่วม “แพร่-น่าน” 24 ส.ค. เร่งช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อน

สถานการณ์ฝนตกน้ำท่วมภาคเหนือยังไม่คลายวิกฤติ ก็เกิดโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญที่ จ.ภูเก็ต ดินภูเขาสไลด์ถล่มทับบ้านเรือนวิลล่าหรูเชิงเขาพังราบกว่า 50 หลัง มีผู้เสียชีวิตนับ 10 ศพ บาดเจ็บระนาว 19 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 1 ราย

ระทึกฝนเทดินถล่มเกาะภูเก็ต

เหตุภัยพิบัติคร่าชีวิตนับสิบศพครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 23 ส.ค. พ.ต.ท.วิวัฒน์ ชำนาญกิจ รอง ผกก.ป.สภ.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุหลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าและดินโคลนสไลด์ลงมาจากเขานาคเกิด ถล่มทับบ้านเรือนชาวบ้านและวิลล่าหลายหลังที่ปลูกอยู่เชิงเขา บริเวณหลังวัดกะตะ หมู่ 2 ต.กะรน มีผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บและสูญหายจำนวนมาก รายงานให้ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายศรัทธา ทองคำ รอง ผวจ.ภูเก็ต นำกำลัง ปภ. และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยไปตรวจสอบ

บ้านเรือนพังราบสังเวย 10 ศพ

ที่เกิดเหตุพบว่าดินโคลนจากบนยอดเขาสไลด์ลงมาทับบ้านเรือนและวิลล่าหรูรวมทั้งหมด 4 จุด เป็นบ้านและห้องเช่ากว่า 50 หลัง และวิลล่าหรู 4 หลัง ได้รับความเสียหายถูกดินโคลนและต้นไม้โค่นถล่มลงมาทับพังราบเป็นหน้ากลอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเครื่องจักรกลหนักลงพื้นที่พร้อมกระจายกำลังออกค้นหาผู้สูญหายตามจุดต่างๆตลอดทั้งวัน ปรากฏว่าพบผู้เสียชีวิต 10 ศพ ส่วนใหญ่ติดอยู่ตามห้องเช่า 8 ศพ ส่วนอีก 2 ศพ เป็นสามีภรรยาชาวรัสเซียเสียชีวิตอยู่ในวิลล่าหรู สภาพศพส่วนใหญ่จมอยู่ใต้โคลนและบ้านเรือนที่พังถล่มลงมาทับร่าง เนื่องจากเหตุเกิดตอนเช้ามืดกำลังนอนหลับสนิท นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกจำนวนมาก และยังมีผู้สูญหาย 1 ราย เป็นคนงานชาวเมียนมา

มีทั้งคนไทย–เมียนมา–รัสเซีย

นายศรัทธา ทองคำ รอง ผวจ.ภูเก็ต เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักทั้งคืนตั้งแต่เวลาประมาณ 4 ทุ่มเรื่อยมาและเริ่มตกหนักอีกครั้งเวลาตี 4 ทำให้ดินบนภูเขานาคเกิดอุ้มน้ำไม่ไหว เกิดน้ำป่าและดินโคลนถล่มลงไปด้านล่างอย่างรุนแรง หลังเกิดเหตุนายอำเภอเมืองภูเก็ตตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่วัดกะตะ ระดมกำลังจากท้องถิ่น เทศบาล ฝ่ายปกครองและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับแจ้งเหตุและรับรายงานเหตุการณ์ต่างๆ รวมไปถึงใช้เป็นสถานที่อพยพผู้ประสบภัย ขณะที่ทีมกู้ภัยออกค้นหาผู้เสียชีวิตจนพบ 10 ศพ จาก 4 จุด ประกอบด้วย ปฏักซอย 2 พบศพหญิงสาวชาวเมียนมา 1 ราย ปฏักซอย 8 (ด้านล่าง) พบศพหญิงสาวชาวเมียนมา 1 ราย ปฏักซอย 8 (กลางซอย) พบ 6 ศพ เป็นชายชาวเมียนมา 2 ราย หญิงชาวเมียนมา 3 ราย หญิงชาวไทย 1 ราย และปฏักซอย 8 (ด้านบน) พบ 2 ศพ เป็นสามีภรรยาชาวรัสเซียชื่อนายเยฟกินี บาตูริน อายุ 38 ปี และ น.ส.เยคาเทรินา ซาบาฟสกายา อายุ 36 ปี นำทั้งหมดส่งชันสูตรที่ รพ.วชิระภูเก็ต

จังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัย

จังหวัดภูเก็ตประกาศพื้นที่ประสบภัย น้ำท่วมขัง น้ำรอระบาย น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ใน อ.เมืองภูเก็ต ประกอบด้วย ต.ฉลอง บริเวณตลาดแม่สมจิตร ถนนหลวงพ่ออ้วน ตรงข้ามโรงแรมออร์คิด ทางขึ้นพระใหญ่ หมู่บ้านฉลองสุข ไฟแดงวัดใต้ ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก แยกโคกโตนด ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ซอยธนูเทพ ซอยปราโมทย์ หมู่บ้านแลนด์แอนด์เฮาส์ หน้าโลตัสฉลอง ต.กะรน ซอยหลวงพ่อฉ้วน บางลากะรน ซอยปฏัก 2 ซอยปฏัก 10 ซอยปฏัก 18 ซอยปฏัก 15 โคกโตนด-กะตะ ซอย 2 หน้าดับเพลิงโคกโตนด กะตะ ซอยปฏัก 4 หน้าโรงแรมบียอนกะตะ ซอยเกศขวัญ กะตะ ส่วน ต.ราไวย์ พื้นที่บ้านไสยวน และบ้านในหาน มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ สูญหาย 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย บาดเจ็บปานกลาง 3 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 50 หลังรวม 250 ครัวเรือน

หนุ่มเมียนมาแฉนาทีเฉียดตาย

นายหม่องมาร์ อายุ 28 ปี แรงงานชาวเมียนมาที่เช่าห้องพักอยู่ปฎักซอย 2 เล่านาทีเฉียดตายว่า ช่วงเวลาเกือบตี 5 ขณะนอนหลับอยู่ในห้องเช่ากับแฟนสาว ได้ยินเสียงดังตูมตามทั้งน้ำป่าและดินโคลนถล่มลงมาอย่างรุนแรงและเร็วมาก ซัดห้องเช่าพังถล่ม โชคดีที่หลังคาเปิดตนกับแฟนตะกุยตะกายปีนหนีขึ้นไปบนหลังคาได้ เห็นห้องข้างๆพังราบไปหมดแล้ว มีเพื่อนข้างห้องที่เป็นชาวเมียนมาเสียชีวิต 2 ราย และห้องพักฝั่งตรงข้ามอีก 1 ราย

จ.แพร่

แพร่วิกฤติน้ำทะลักจมตัวเมือง

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือวิกฤติหนักที่ จ.แพร่ แม่น้ำยมที่รับมวลน้ำจากตอนบนเอ่อล้นไหลบ่าเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ย่านเขตเศรษฐกิจ ศูนย์ราชการ ศาลากลางจังหวัด และชุมชนโดยรอบเป็นบริเวณกว้าง ประชาชนขนข้าวของขึ้นที่สูงและนำรถยนต์ออกไปจอดไว้ในที่ปลอดภัยตั้งแต่เมื่อคืน หลังได้รับการแจ้งเตือนจากเทศบาลเมืองแพร่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีรถยนต์จำนวนมากที่ย้ายหนีไม่ทันต้องจอดจมน้ำ ถนนทุกสายน้ำท่วมสูงไม่สามารถสัญจรได้ โรงเรียนในเขตเทศบาลประกาศหยุดเรียน วัดและโบราณสถานหลายแห่งถูกน้ำท่วม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดแพร่ย้ายที่ทำการไปอยู่ที่ศูนย์บริหารจัดการน้ำ อบจ.แพร่ เพื่อติดตามสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ขณะที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านต้องขนของขึ้นที่สูงกันจ้าละหวั่น โดยระดับน้ำท่วมครั้งนี้สูงกว่าเมื่อปี 54 แล้ว แต่ยังต่ำกว่าปี 38

แจ้งเตือนสุโขทัยเป็นคิวต่อไป

นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.แพร่ สั่งการเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการดำรงชีพ น้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค และศูนย์พักพิง กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นวางแผนดำเนินการไว้ล่วงหน้าแล้ว พร้อมระดมกำลังทุกหน่วยงานเข้าไปช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมออกจากที่พัก และแจ้งเตือนพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบต่อไปคือ อ.สูงเม่น อ.เด่นชัย อ.ลอง และ อ.วังชิ้น ก่อนที่มวลน้ำจะเข้าสู่ จ.สุโขทัย ต่อไป

“ร่วมกตัญญู–สิงห์” ช่วยชาวบ้าน

ไทด์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำทีมอาสาสมัครลงเรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่บ้านใหม่ หมู่ 4 ต.ทุ่งกวาว อ.เมืองแพร่ เป็นหมู่บ้านติดแม่น้ำยมมีกว่า 400 ครัวเรือน ช่วยอพยพผู้ป่วย คนชรา และสัตว์เลี้ยง พาไปยังจุดพักพิงชั่วคราว นอกจากนี้ยังส่งทีมกู้ภัยกระจายไปช่วยชาวบ้านอีกหลายจุดที่ระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้น มีคนติดค้างและร้องขอความช่วยเหลือจำนวนมากขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม ขณะที่ สิงห์อาสาลงพื้นที่ร่วมกับเครือข่ายนักศึกษาและเครือข่ายกู้ภัยภาคเหนือ นำอาหารพร้อมทานและน้ำดื่มไปมอบให้ผู้ประสบภัยหลายพื้นที่ใน จ.เชียงราย จ.น่าน และ จ.แพร่ ยังมีชาวบ้านจำนวนมากติดอยู่ในบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมสูง

น่านยังอ่วมสำลักน้ำทั่วเมือง

จ.น่าน นอกจาก 8 อำเภอที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้แก่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ทุ่งช้าง อ.เชียงกลาง อ.ปัว อ.ท่าวังผา อ.บ้านหลวง อ.เวียงสา และ อ.นาน้อย มวลน้ำไหลทะลักเข้าเขตเทศบาลเมืองน่าน ย่านเศรษฐกิจการค้าถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรเพียงอย่างเดียว ยังมีฝนตกปรอยๆลงมาอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 ของตัวบ้านรอหน่วยงานนำอาหารและน้ำดื่มมาให้ ที่ รพ.น่าน น้ำทะลักเข้าท่วมชั้นล่างของอาคาร ทางโรงพยาบาลยังเปิดให้บริการตามปกติ แจ้งคนไข้ที่นัดหมายหากเดินทางมาไม่ได้ให้เลื่อนออกไป 1 สัปดาห์ ส่วนที่ชุมชนวัดไผ่เหลือง ปริมาณน้ำสูงสุดเกือบ 2 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา แต่หลายครอบครัวยังไม่ยอมอพยพออกมา ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง วัดภูมินทร์ ต.ในเวียง น้ำเข้าท่วมในบริเวณวัดตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 22 ส.ค. แต่ระดับน้ำยังท่วมไปไม่ถึงจิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่านย่าม่าน กระซิบรักบันลือโลก”

เอาไม่อยู่ “กว๊านพะเยา” ล้นแล้ว

จ.พะเยา สถานการณ์น้ำในกว๊านพะเยาถึงขั้นวิกฤติ ลำน้ำ 13 สายไหลลงกว๊านจนเกินปริมาณกักเก็บ เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมโอบล้อมตัวเมืองพะเยา ถนนชายกว๊าน และถนนพหลโยธิน สถานีขนส่งผู้โดยสาร ร้านค้า ชุมชนวัดบุญยืน และบ้านเรือนในเขต ต.เวียง และ ต.แม่ต๋ำ ถูกน้ำท่วมสูงหลายร้อยหลังคาเรือน ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก การสัญจรถนนต่างๆเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมแต่ละอำเภอ หลายพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลง หน่วยงานต่างๆ เร่งช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมซ่อมแซมสาธารณประโยชน์ ทั้งถนนและสะพานที่ชำรุดเสียหายให้ใช้การโดยเร็ว ส่วนที่ อ.เชียงคำ เกิดเหตุสลดใจ นายอุด ไชยวงศ์ อายุ 65 ปี ถูกน้ำป่าไหลหลากซัดร่างจมน้ำ ขณะเดินข้ามลำน้ำญวน บริเวณเหนือฝายโป่งจี้ บ้านสบสา หมู่ 18 ต.ร่มเย็น เสียชีวิต

จ.เชียงราย

ช่วยระทึก 11 ชีวิตติดในหมู่บ้าน

จ.เชียงราย น้ำท่วมพื้นที่ อ.เทิง ยังทรงตัว แม่น้ำโขงเพิ่มระดับหนุนให้แม่น้ำอิงระบายช้า ประกอบกับช่วงกลางคืนในพื้นที่มีฝนตกลงมา มวลน้ำในพื้นที่ อ.เทิง จะไหลลงไปพื้นที่ อ.พญาเม็งราย และ อ.ขุนตาล ตามลำดับ ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านต้า ต.ต้า อ.ขุนตาล อพยพชาวบ้านติดอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงออกมาได้ 11 คน มีผู้สูญหาย 1 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 16-22 ส.ค. น้ำท่วมไปแล้ว 11 อำเภอ 33 ตำบล 264 หมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 5,615 ครัวเรือน

แพทองธาร ชินวัตร

“นายกฯอิ๊งค์” ไปลุยน้ำแพร่–น่าน

ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือว่า แม้ยังไม่สามารถออกคำสั่งกับหน่วยงานราชการในฐานะนายกฯได้ จนกว่าจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และถวายสัตย์ปฏิญาณ แต่ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและในฐานะประชาชนคนหนึ่ง รู้สึกห่วงใยเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าสถานการณ์น้ำท่วมหนัก ได้คุยกับ สส.และเลขาธิการพรรคว่า วันที่ 24 ส.ค.จะลงพื้นที่ จ.แพร่ และ จ.น่าน ไปดูว่าจะช่วยประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน ตอนแรกที่ทราบข่าวก็ส่งแรงใจไปอย่างแรก และจากการพูดคุยในพรรค สส.ภาคเหนือลงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ จะลงพื้นที่วันที่ 25 ส.ค.

ส่งถุงยังชีพหมื่นชุดช่วย 2 จังหวัด

นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานปลัดสำนักนายก รัฐมนตรี จัดหาถุงยังชีพ 11,932 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในเบื้องต้นแล้วในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.น่าน และจะทยอยจัดส่งถุงยังชีพแจกจ่ายให้ประชาชนในจังหวัดอื่นๆ รวมถึงทยอยการช่วยเหลือเพิ่มเติมลงไปในพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมทั้งประเมินความเสียหายทรัพย์สิน บ้านเรือน และพื้นที่เกษตรเพื่อเยียวยาต่อไป ประชาชนสามารถแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือได้ที่ ปภ.จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ 24 ชม.

ผบ.ทบ.ตั้งวอร์รูมเฝ้าเกาะติด

พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. และ ผอ.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กล่าวว่า สั่งการให้ พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 เข้าไปกำกับดูแลช่วยเหลือประชาชน เน้นย้ำให้ใช้ศักยภาพทุกอย่างที่มีอยู่ของทุกหน่วยในพื้นที่เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง ที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นภัยพิบัติระดับสอง ในจังหวัดยังสามารถรับมือได้ หากต้องการยุทโธปกรณ์ต่างๆ รวมถึงกำลังพลจากส่วนกลางขึ้นไปช่วยเหลือต้องรอการประเมินสถานการณ์จากแม่ทัพภาคที่ 3 หากมีการร้องขอมาสามารถสนับสนุนได้ทันที และกองทัพบกได้ตั้งวอร์รูม หรือศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ตรวจเข้มห้ามขึ้นราคาสินค้า

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยว่า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิด และกำกับดูแลให้สินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชนมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการใช้ และห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยเด็ดขาด ได้ประชุมร่วมกับห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง สมาคมขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออก สมาคมรถบรรทุก ที่เป็นภาคีเครือข่าย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อกำชับให้วางจำหน่ายสินค้าอย่างเพียงพอ และไม่ฉวยขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่เป็นธรรมร้องเรียนได้ทางสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 แอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด

ระดมป้องกันอุทยานฯสุโขทัย

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สั่งการให้สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ติดตามผลกระทบของโบราณสถานในพื้นที่ภาคเหนือ รวมถึงพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่จะมีน้ำไหลลงมาหลังจากนี้ กำชับให้เตรียมพร้อมตามมาตรการป้องกันอุทกภัยเช่นเดียวกับวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา จัดทำพนังกั้นน้ำ วางกระสอบทราย และเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยง ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นได้เตรียมงบฉุกเฉินสำรองในการบูรณะโดยเร็ว

วัดภูมินทร์ ที่มีจิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่านย่าม่าน กระซิบรักบันลือโลก”

ยัน “วัดภูมินทร์” ยังไม่เสียหาย

นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผอ.กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ จ.น่าน น้ำไหลท่วมพื้นที่โบราณวัดภูมินทร์ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วัดหัวข่วง วัดมิ่งเมือง ข่วงเมืองน่าน คุ้มเจ้าราชบุตร วัดกู่คำ น้ำสูงกว่า 20 ซม.อยู่ในระดับทรงตัว ที่โบราณสถานวัดภูมินทร์ ภาพจิตรกรรมฝาผนังยังไม่ได้รับผลกระทบ และไม่น่าเป็นห่วง เพราะได้ซ่อมแซมและผนึกภาพไว้แล้วเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ที่น่าห่วงคือน้ำที่ซึมลงใต้ดินจะเป็นปัจจัยเร่งทำให้องค์พระประธานจตุรทิศที่ก่อนหน้ามีผิวทองระเบิดเป็นรอยแยก ความชื้นจะเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดความเสียหาย

121 โรงเรียน 15 จว.ได้ผลกระทบ

ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า มีสถานศึกษาในสังกัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 121 โรงเรียนใน 22 สพท. แบ่งเป็น 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และ 16 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตราด ตาก น่าน ปราจีนบุรี พะเยา เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ลำพูน สุรินทร์ อ่างทอง และภูเก็ต มีนักเรียนที่ประสบภัย 2,863 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา 265 คน อาคารเรียนได้รับความเสียหาย 71 แห่ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *