เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 5 ม.ค. 68 ร.ต.อ สุขสันต์ ฉะอ้อน รอง สว.จร. สภ.สามโคก ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกัน และมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนวงแหวนฝั่งตะวันตก (หมายเลข 9) หลัก กม.ที่ 69 ม.6 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (ตรงข้ามคลังสินค้าโลตัสสามโคก) หลังรับแจ้ง จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมกำลังและอาสาสมัครมูลนิธิ่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบนถนนช่องเลนซ้ายสุด ขามุ่งหน้า อ.บางปะอิน พบรถเก๋ง ฮอนด้า สีเทา สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าแตกร้าว ที่พื้นถนนตรงหน้ารถมีแผ่นป้ายทะเบียนรถตกอยู่ 2 แผ่น พร้อมเศษกระจกและไฟท้ายรถกระบะ ภายในรถที่เบาะคนขับ พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือนางสมบัติ อายุ 69 ปี ห่างไปด้านหน้าประมาณ 30 เมตร มีรถกระบะ โตโยต้า สีขาว บรรทุกจอดติดเครื่องอยู่ ที่ท้ายรถบรรทุกเหล็กแฮนด์ลิฟท์ และถังอ๊อกซิเจน 1 ใบ กระบะฝาท้ายมีร่องรอยถูกชนจนเสียหาย
โดยมีนายธีรพงษ์ อายุ 36 ปี คนขับรถกระบะ ยืนรอให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับน้องชายได้ขับรถมาจาก อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เพื่อจะไปทำงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ขณะขับมาจนถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ตนจึงได้จอดรถชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อจะลงไปทานอาหาร และยังไม่ทันที่จะดับเครื่อง จากนั้น จู่ ๆ ก็มีรถเก๋งคันดังกล่าวขับวิ่งเข้าเลนซ้ายมาแล้วพุ่งชนท้ายตนอย่างแรง ตนและน้องชายจึงรีบลงไปดู ก็พบร่างของคนขับสภาพนอนหงายจึงพยายามเปิดประตูเพื่อจะช่วยเหลือ แต่ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ก่อนจะโทรกลับแจ้งตำรวจและกู้ภัยมาตรวจสอบดังกล่าว
ต่อมา ได้มีนายปิยะพร อายุ 40 ปี ลูกชาย และ นายสมิทธ์ 18 ปี หลาน พร้อมนางระเบียบ อายุ 68 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกับร่ำไห้ โดยนางระเบียบ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ พี่สาวตนได้ขับรถมาหาตนที่บ้าน เมื่อช่วง 11 โมง แต่ไม่เจอตน เพราะตนออกไปซื้อของข้างนอก พอตนขับรถกลับมาที่บ้านก็เห็นพี่สาวตนขับรถเก๋งคันดังกล่าวขับสวนออกไป ตนได้พยายามบีบแตรเรียก แต่ก็ไม่ทัน
เมื่อไปถึงบ้านก็พบว่าพี่สาวตนทำแกงมาฝากไว้ ตนจึงได้นั่งกินข้าวกับแกงของพี่สาว พร้อมกับส่งไลน์ไปบอกว่าขอบคุณมากที่เอาแกงมาฝาก หลังจากนั้นไม่นาน หลานชายก็โทรมาบอกว่า พี่สาวตนประสบอุบัติเหตุ รถชนเสียชีวิต จึงรีบมาดู ไม่คิดว่าแกงถุงนี้จะเป็นถุงสุดท้าย ที่พี่สาวตอนเอามาให้ ก่อนจะเสียชีวิต
ทางด้าน นายสมิทธ์ หลานชายลูกของนายปิยะพร ฯ ได้กล่าวว่าเมื่อเช้าย่าได้ออกจากบ้านแล้วบอกจะไปหาย่าเบียบ โดยตนก็เห็นว่า สายแล้วย่ายังไม่กลับบ้าน ก็คิดว่าย่าคงจะเลยไปตลาดเพื่อไปซื้อของจนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าญาติเกิดอุบัติเหตุ
ด้านตำรวจ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบในสถานที่เกษตรพร้อมกับประสานไปยังแพทย์ จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมเพื่อมาร่วมตรวจสอบ หลังจากนั้นจะได้มอบศพให้ทางมูลนิธินำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างไรอีกครั้ง ส่วนทางด้านสาเหตุ การเกิดเหตุครั้งนี้ คาดว่า ผู้เสียชีวิต อาจจะหลับในหรือมีอาการวูบ เนื่องจากสอบถามทางญาติพบว่ามีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม จะได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดปทุมธานี รายงาน