ฮือฮา ‘เสี่ยเค้ก’ พ่อค้าบะหมี่คลั่งทอง ใส่เต็มตัว เหลืองอร่าม ราคารวมเป็นล้าน

Author:

ฮือฮา ‘เสี่ยเค้ก’ พ่อค้า ใส่ทองขายบะหมี่ เหลืองอร่ามเต็มตัว ทั้งสร้อยคอ-เลส หนักกว่า 40 บาท ราคารวม 1.6 ล้าน เมีย-ลูก-ลูกจ้าง ก็ใส่ เล็งซื้อเพิ่มอีก

เมื่อวันที่ 26 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อ ‘เสี่ยเค้ก’ นายรังสรรค์ สุวรรณศร อายุ 57 ปี เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวชื่อดัง “ฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง” ที่มักจะใส่สร้อยคอทองคำรูปพรรณ และเลสข้อมือ น้ำหนักหลายสิบบาท ขายบะหมี่ไปด้วย จนเคยเป็นข่าวโด่งดังไปตามสื่อต่างๆมาแล้ว

จนลูกค้าบางคนก็ยังห่วงใยความไม่ปลอดภัยของเสี่ยเค้ก รวมทั้งภรรยาและลูกจ้างที่ร้านที่ใส่สร้อยคอทองคำกันทุกคน จนเป็นที่ฮือฮาของลูกค้า ที่มาซื้อก๋วยเตี๋ยวในแต่ละคืน อีกทั้งตัวเสี่ยเค้กเองนั่น ก็เคยผ่านความจนมาแล้ว จึงเข้าใจถึงหัวอกคนจน และติดป้ายที่หน้าร้านไว้ว่า “สตรีมีครรภ์ คนจน คนไร้ที่พึ่งขอกินฟรีได้ตลอด”

เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังร้านขาย “ฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง” ของเสี่ยเค้ก ซึ่งตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านกฤษดานคร ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พบเสี่ยเค้ก ภรรยา ลูกสาว ลูกชาย รวมถึงลูกจ้าง กำลังชุลมุนปรุงก๋วยเตี๋ยวให้กับลูกค้าอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเสี่ยเค้กเองนั้นในคืนนี้ พบว่าใส่สร้อยคอทองคำ 2 เส้นใหญ่ เลสข้อมือทองคำอีก 2 เส้น จนเหลืองอร่ามไปทั้งตัว ส่วนภรรยาและลูกสาวลูกชาย ลูกจ้าง ต่างก็มีสร้อยคอทองคำใส่กันทุกคน

นายรังสรรค์ หรือเสี่ยเค้ก เปิดเผยว่า ช่วงนี้ถึงแม้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี แต่ที่ร้านของตนก็พออยู่ได้ เพราะตนทำกันแบบครอบครัวช่วยกันเองค้าขายกันเอง ส่วนสร้อยคอทองคำที่ใส่อยู่ที่คอ ตอนนี้ก็เพิ่งไปเปลี่ยนและเพิ่มน้ำหนักมา จากเส้นละ 10 บาทเป็นเส้นละ 15 บาท 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำก็เพิ่มเป็นเส้นละ 5 บาท 2 เส้น รวมน้ำหนักทองที่ใส่อยู่คืนนี้ก็ 40 บาท มูลค่าประมาณ 1,600,000 กว่าบาท

“เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ผมก็ไปดูสร้อยคอทองคำหนัก 100 บาทที่ร้านทองแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี และยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ทำคอนเทนต์ให้กับที่ร้าน เนื่องจากที่ร้านเห็นผมใส่ทองเหลืองอร่ามทั้งตัว อีกทั้งสร้อยคอทองคำหนัก 100 บาทเส้นนี้ ผมรู้สึกชอบและพึงพอใจในลวดลายและงานที่สั่งทำ ตอนนี้ก็เริ่มจะรวบรวมเงินสด เก็บเล็กผสมน้อยอีกสักหน่อย คาดว่าจะกลับไปซื้อทองเส้นนี้กลับมาให้ได้ เพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิต” เสี่ยเค้ก กล่าว

นายรังสรรค์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ร้านก็ยังมีสโลแกนเหมือนเดิม ถ้าคนไหนยากจนสตรีมีครรภ์ คนไม่มีจะกิน ถ้ามาขอตนพร้อมให้กินฟรีเสมอ ส่วนคนที่มีตังแล้วแกล้งทำไม่มีมาขอกินฟรี ถ้าเขากล้าขอ ตนก็กล้าให้ เพราะตนนักเลงพอ

เมื่อถามว่า ใส่ทองมากมายขนาดนี้ไม่กลัวอันตรายเหรอ เสี่ยเค้ก ตอบว่า ตนเป็นคนแถวนี้ ทุกคนรู้จักตนทั้งนั้น ส่วนตนก็รู้จักแทบทุกคน อีกทั้งที่ผ่านมาก็ทำแต่ความดีช่วยเหลือคนที่ลำบากหาก ใครที่มาคิดร้ายกับตน ก็มีของดีพอปกป้องคุ้มครองตัวอยู่เหมือนกัน “ขอร้องอย่าเสี่ยงดีกว่ามันไม่คุ้ม”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *