ตั้ง 2 ประเด็นสังหารโชเฟอร์แท็กซี่หมกพงหญ้า ประสงค์ต่อทรัพย์-ยาเสพติด หลังเรียกลูกสะใภ้สอบ

Author:

ผู้การปากน้ำประชุมวางแผนเร่งรัด คดีพม่าฆ่าลุงแท็กซี่หมกพงหญ้า ตั้ง 2 ปม ประสงค์ต่อทรัพย์กับยาเสพติด เรียกลูกสะใภ้สอบหลังคุยด้วยกว่า 7 นาที

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2567 ที่สภ.บางพลี พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เดินทางเข้ามาร่วมประชุมกับตำรวจชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวน ชุดคลี่คลายคดี กรณีนายมีชัย พันธุ์ชัย อายุ 63 ปี โชเฟอร์แท็กซี่เสียชีวิต สภาพมือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลัง

โดยช่วงเช้าตำรวจ ได้เชิญตัว น.ส.ปลา (นามสมมติ) ลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ เนื่องจากตามข้อมูลโทรศัพท์ พบว่าผู้เสียชีวิตได้ติดต่อหาลูกสะใภ้ผ่านทางแชทเฟซบุ๊ก เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.วันที่ 27 ส.ค.2567 ซึ่งทางลูกสะใภ้ได้ให้ข้อมูลกับทางภรรยาผู้ตาย ว่าผู้ตายเล่นการพนันในบ่อนติดหนี้ 20,000 บาท

นอกจากนี้ยังพบการโทร มีการพูดคุยกันนานกว่า 7 นาที ซึ่งทางตำรวจเองก็ต้องพิสูจน์ทราบว่าข้อเท็จจริง ว่าลูกสะใภ้ของผู้ตายได้คุยกับบุคคลปลายสายคือใครกันแน่ ซึ่งระหว่างที่ลูกสะใภ้มาถึงยังโรงพัก ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า บุคคลปลายสายที่พูดคุยด้วยกว่า 7 นาทีเป็นผู้ตายใช่หรือไม่ ลูกสะใภ้ตอบกลับเพียงแค่ “ไม่ค่ะ” ก่อนจะเดินเข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการเชิญลูกสะใภ้จากห้องสอบสวนมายังห้องประชุม ผู้สื่อข่าวก็ได้มีการสอบถามอีกครั้ง ว่าบุคคลที่ได้คุยด้วยกว่า 7 นาที คือใครกันแน่ ซึ่งลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตก็ตอบแบบเดิมว่า “ไม่รู้ค่ะ” ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุมไป

หลังจากการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงทาง พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้แถลงถึงความคืบหน้าว่า หลังจากเกิดเหตุ จนถึงตอนนี้สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย นั่นก็คือชายชาวเมียนมา และมีการอายัดของกลาง รถแท็กซี่ และโทรศัพท์มือถือ ของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน

ส่วนการสอบปากคำตัวผู้ต้องสงสัยชาวเมียนมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ยอมรับว่าอยู่ด้วยทุกช่วงเวลา ตั้งแต่รถแท็กซี่ของผู้เสียชีวิตไปรับ จนไปถึงจุดที่พบศพ และขับรถออกมาจากจุดเกิดเหตุ ก่อนจะกลับไปที่ห้องเช่าในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่สำคัญยังได้มีการอ้างถึงตัวละครอีก 1 คน โดยคาดว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย แต่ทางตำรวจเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะต้องมีการพิสูจน์ทราบตามคำให้การของผู้ต้องสงสัยรายนี้ต่อไป

ในส่วนปมเหตุของคดีในตอนนี้ทางชุดทำงานได้มีการตั้งปมไว้ 2 ประเด็นด้วยกันนั่นก็คือ ฆ่าชิงทรัพย์ และความขัดแย้งส่วนตัว ในประเด็นเรื่องของยาเสพติด ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมีการเรียกพยานแวดล้อมเข้ามาสอบปากคำ และหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่รถแท็กซี่ของผู้เสียชีวิตได้ขับออกมา

ตั้งแต่พื้นที่จังหวัดนนทบุรีช่วงเที่ยงคืน จนมาถึงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะกลับไปพื้นที่จังหวัดนนทบุรี อีกครั้งช่วงเวลาประมาณตีห้า เพื่อมาตรวจสอบดูว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมดกี่คน และจุดที่ลงมือฆ่าอยู่ที่ไหน แต่เบื้องต้นจากข้อมูลการสืบสวน คาดว่าน่าจะอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ

ส่วนลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิต ที่ทางตำรวจได้เรียกมาให้ปากคำในวันนี้ เนื่องจากพบข้อมูลประวัติการโทร ว่าได้มีการพูดคุยกับเบอร์ผู้เสียชีวิตนานกว่า 7 นาที ซึ่งประเด็นนี้ทางลูกสะใภ้ ให้การว่าปลายสายที่ได้คุยด้วย คือตัวของผู้เสียชีวิต พร้อมได้ยินเสียงร้องโหยหวนที่ปลายสาย ซึ่งเป็นเสียงของผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน

อีกทั้งเหมือนกับว่าได้ยินเสียงคนจีนพูด เรียกค่าไถ่ ซึ่งประเด็นคำให้การของลูกสะใภ้ทางตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การ เพราะความเห็นแพทย์ ยืนยันว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10-12 ชั่วโมง จึงไม่มีความเป็นไปได้ ที่ปลายสายจะเป็นตัวของผู้เสียชีวิตเอง แต่กลับกันมีความเป็นไปได้ว่าลูกสะใภ้จะเกิดความสับสน ซึ่งประเด็นนี้ทางตำรวจชุดสืบสวนก็ต้องไปพิสูจน์ทราบด้วยเช่นกัน

  • อ่านข่าว ญาติเศร้า รอรับศพ “ลุงมีชัย” โชเฟอร์แท็กซี่ เหยื่อเมียนมาฆ่าโหด เมียเผยปมหนี้บ่อน2หมื่น
  • อ่านข่าว บุกจับหนุ่มเมียนมา ผู้ต้องสงสัย สังหารโชเฟอร์แท็กซี่เรียกค่าไถ่ เจ้าตัวลั่นไม่ได้ฆ่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *