จากกรณี สุนัขพันธุ์ อเมริกันบูลลี่ กัดคนในครอบครัวจนเสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตเป็นน้องชายของเจ้าของสุนัข ความคืบหน้า ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง ที่บ้านเกิดเหตุ พบทั้งพ่อและแม่ พี่ชายผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ใน ความโศกเศร้าเสียใจ และยังทำใจไม่ได้และไม่ขอตอบคำถามกับสื่อมวลชน โดยให้ นายอภิสิทธิ์ หรือโอ๊ต จันทร์สกุณี เจ้าของอเมริกันบูลลี่ เป็นผู้ตอบแทน

โดย นายอภิสิทธิ์ พี่ชาย ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ กล่าวว่า สุนัข American bully 2 ตัวนี้ชื่อฟีโน่ กับเซสร่า เป็นเพศผู้ อายุ 1 ปีครึ่ง น้ำหนักประมาณ 18-20 กิโลกรัม ตนเองเป็นคนทำคลอดมากับมือ โดยแม่พันธุ์ ชื่อ ถังแก๊ส อายุ 4 ปี พ่อเป็นคนซื้อมาเลี้ยง และตนเองเอาไปผสมพันธุ์จนเกิดฟีโน่ กับเซสร่า ขึ้นมา

ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเองได้เลี้ยงดูอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เนื่องจากต้องกลับมาดูแม่ ซึ่งมีอายุมากแล้วและยังป่วยบ่อย จึงได้นำสุนัขอเมริกันบูลลี่ 2 ตัวนี้มาเลี้ยงไว้ที่บ้าน รวมกับแม่ของมันเองด้วย  ซึ่งช่วงที่นำมา ก็ยังไม่คุ้นกับใครสักเท่าไร แถมยังมีหมาเจ้าตาล หมาพันธุ์ไทยเพศผู้สีขาว 1 ตัว ที่ทางครอบครัว เลี้ยงอยู่ จึงได้นำสนัขทั้งสองตัวไปเลี้ยงไว้บนห้องนอนของตนเอง โดยมีน้องชาย คอยให้อาหาร และเริ่มคุ้นเคยกัน เล่นกัน หยอกล้อกันตั้งแต่นั้นมา

นายอภิสิทธิ์ เล่าต่อว่า ช่วงที่เกิดเหตุ พ่อไปทำงานและแม่ไปหาหมอ ส่วนตนเองเข้าเวรดึก ไม่ได้กลับบ้านเย็น โดยปล่อย อเมริกันบูลลี่ทั้ง 3 ตัวไว้กับน้อง คาดว่า ฟีโน่กับเซสร่า น่าจะเกิดจากความเครียด ที่ตนเองไม่ได้กลับมาบ้านตามปกติช่วงเย็นเช่นทุกวัน และเป็นไปได้ว่า น้องชายคงเล่นกับสุนัขทั้งสองไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกวิธี รวมถึงความเครียดสะสมที่ไม่ได้เจอตนเอง จึงได้เกิดความก้าวร้าวขึ้น เริ่มกัดพอได้กลิ่นเลือด ก็มุทะลุจนห้ามไม่ฟัง

นอกจากนี้ ถังแก๊สซึ่งเป็นแม่อเมริกันบูลลี่ทั้ง 2 ตัว ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขา ตนคิดว่าเป็นเพราะแม่ของอเมริกันบูลลี่ เข้าช่วยน้องชายจนได้รับบาดเจ็บ แต่ทนแรงของลูกๆทั้ง 2 ตัวไม่ไหว จนล่าถอย ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าว ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้ ครอบครัว พ่อแม่ตนเองรู้สึกเสียใจ เป็นอย่างมาก ที่ต้องสูญเสีย บุคคลอันเป็นสุดที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ

หลังจากนี้ ตนเองจะไม่เลี้ยงสุนัข American bully ทั้ง 3 ตัวแล้ว ทั้งที่รักมันก็ตาม เนื่องจากอาจจะทำใจไม่ได้ หากเห็นอเมริกันบูลลี่ทั้ง 3 ตัวนี้ โดยขณะนี้มีผู้ติดต่อขอรับไปเลี้ยงแล้วจำนวนหลายราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ Watch Dogs ก็ได้โทรมาถามความคืบหน้าด้วยความเป็นห่วง ซึ่งจะเลือกให้สำหรับผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงอเมริกันบูลลี่เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ร่างของผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่สถาบันนิติเวช โดยทางญาติได้จัดเตรียมรอรับร่างที่วัด หลวงท้ายตลาด อำเภอเมือง ลพบุรี รวมถึงผลของการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดเกี่ยวกับบาดแผลที่กัด

ผู้สื่อข่าวจังหวัดลพบุรี รายงาน

เรียบเรียง siamnews