ความสุขไม่มีอยู่จริง ไม่ต้องแสวงหา มีแต่ทุกข์มากและทุกข์น้อย เป็นธรรมดา
คุณอาจมีความร่าเริงเบิกบานเป็นพักๆ เท่านั้น แต่อย่าหลงไปว่ามันเป็นความสุข
ไม่มีภาวะใดๆ ในชีวิตที่ไร้ความทุกข์อย่างสิ้นเชิง อย่าแกล้งทำเป็นลืมความทุกข์ชั่วคราวด้วยวิธีต่างๆ
หยุดเดินไปหาและกอบโกยความทุกข์เข้าต้ว เพื่อสงวนเวลาที่เหลือไว้จัดการกับความทุกข์ที่วิ่งมาชนคุณ
มีคนค้นพบวิธีจัดการกับความทุกข์ไว้แล้วอย่างครบถ้วน นานมาแล้ว
ค้นหาสิ่งที่คุณถนัด รักและหลงไหลต่อไปจนกว่าจะพบ
พัฒนาความถนัดของคุณจนเป็นยอดฝีมือและประกอบเป็นอาชีพได้
สร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อคุณและผู้อื่นจากความถนัดของคุณ
คุณค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
วางใจเป็นกลาง
ยึดทางสายกลาง ทุกข์ สุข เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป
เรียนรู้อยู่กับวัฏจักรและเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ด้วยกัน มองโลกตามความเป็นจริง
อยู่กับปัจจุบัน พอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้
เมื่อเกิดความเบื่อหน่าย สิ่งเหล่านี้จะทำให้นำไปสู่ “ความจริง”
นิพพิทา แปลว่า ความเบื่อหน่าย เมื่อเริ่มเห็นความเบื่อหน่าย ก็ย่อมอยากหนี เมื่ออยากหนี ก็ย่อมหาวิธี เมื่อหาวิธีก็ย่อมนำเข้าไปสู่กระบวนการตามหา”ความจริง!” “ความจริงหรือสัจจะในโลกนี้มีอยู่ 2 ประการ
1.สมมติสัจจะ ความจริงโดยสมมติ
2.ปรมัตถสัจจะ ความจริงอันเป็นที่สุด
“คนส่วนใหญ่เข้าใจอยู่แค่สมมุติ แล้วก็ยึดอยู่กับสมมุติ มันจึงเป็นเหตุนำมาแห่งทุกข์ต่างๆ คนดิ้นรนอยากมีไม่รู้จักพอ ก็เพราะยึดอยู่กับความไม่รู้จักพอ หรือพูดตรงๆ ว่า “โลภ!”
หลายคนคิดว่าการมีสิ่งต่างๆ แล้วจะทำให้ชีวิตมีความสุข แต่เปล่าเลย
ยกตัวอย่างเช่น คนซื้อรถ ต้องหาเงินดาวน์รถ แล้วก็หาเงินส่งค่างวดรถ แล้วก็คอยปวดหัวกับการซ่อมดูแลรถ
สรุปแล้วที่ได้มา คือทุกข์ มากกว่า สุข “ฉะนั้น!” ถ้าอยากมีความสุข จึงควรอยู่กับสมมุติแต่ต้องเรียนรู้จักวิธีไม่ให้ติดกับสมมุติ
มีสุขก็ต้องมีทุกข์ มียศเสื่อมยศมีลาภเสื่อมลาภมีสรรเสริญก็ต้องมีนินทาเป็นธรรมดาของโลก
หากเข้าใจธรรมดาของโลภ เวลามีปัญหาอะไร จะช่วยทำให้รู้จักปล่อยวาง
#เห็นทุกข์เห็นธรรม