ผอ.โรงเรียน ขับเก๋งพาครอบครัวไปเยี่ยมแม่ จอดติดไฟแดงดีดี กระบะพุ่งชนรถยับ ภรรยา ลูก หลาน ที่มาด้วยได้รับบาดเจ็บ รถคู่กรณีอ้างเจอมอ’ไซค์ตัดหน้า
ร.ต.อ.หญิง ศุภลักษณ์ หวานวาจา รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณสี่แยกไฟแดงถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ทางแยกเข้าถนนเกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เข้าอำนวยความสะดวกให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว จอดอยู่กลางสี่แยกไฟแดง สภาพรถพังเสียหายยับเยินเกือบทั้งคัน ทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายพาสกร พรหมวิหาร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังข่อย และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย ส่วนภรรยา ลูก และหลาน ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบ ก่อนหน้านี้แล้ว
ห่างออกมาประมาณ 30 เมตร พบรถกระบะตู้ทึบสีแดง ยี่ห้ออีซูซุ พลิกตะแคงข้าง ด้านหน้ารถกระจกแตกพังเสียหาย ผู้ขับขี่เป็นชายอายุระหว่าง 30-35 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ และถัดออกมาอีก 100 เมตร พบกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว สภาพท้ายรถด้านซ้าย และไฟท้ายแตกได้รับความเสียหาย ทว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นายพาสกร เล่าว่า ตนพาครอบครัวขับรถเดินทางมาจาก อ.หัวหิน กำลังมุ่งหน้าไปเที่ยว และเยี่ยมหาแม่ของตนที่ อ.ทับสะแก ในช่วงวันหยุดราชการ ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุ ได้จอดติดสัญญาณไฟแดง มีรถกระบะตู้ทึบสีแดงพุ่งเข้ามาชนอย่างแรงบริเวณท้ายรถ ทำให้รถเสียหลักหมุนอยู่กลางสี่แยก จากนั้นรถกระบะสีแดงยังพุ่งไปชนท้ายกระบะรถคันอื่นที่กำลังเลี้ยวขวา ก่อนจะพลิกคว่ำ ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน ส่วนภรรยา ลูก และหลาน ที่นั่งรถมาด้วยได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลประจวบฯ
ด้านคนขับรถกระบะตู้ทึบสีแดง เล่าว่า ได้ขับรถมาจากกรุงเทพฯ กำลังมุ่งหน้านำไปส่งสินค้าให้บริษัทรถแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างใกล้ถึงจุดเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังจะชะลอรถเพื่อจอดรอสัญญาณไฟแดง ได้มีรถจักรยานยนต์ขับปาดหน้าอย่างกระชั้นชิด ทำให้ตกใจหักหลบจนรถเสียหลักพุ่งเข้าชนรถเก๋งที่จอดรอไฟแดงอยู่ด้านหน้า และรถคันอื่น ๆ จนได้รับความเสียหาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ถ่ายภาพเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้ารถคู่กรณีทุกคัน เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่แน่ชัด ก่อนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย และหาผู้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_9343801