เลียนแบบหนัง? รวบ เจมส์ บางบอนด์ สะกดรอยตามสารวัตร ย่องเบาขึ้นคอนโด… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9344213

Author:

รวบ ‘เจมส์ บางบอนด์’ สะกดรอยตามสารวัตร 10 วัน ใช้คีย์การ์ดสำรอง เข้าห้อง 8 ครั้ง มึนรู้ห้องได้ยังไง ในห้องมีทรัพย์สิน แต่ไม่ขโมย หวั่นมีเจตนาแอบแฝงกว่านั้น

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายมนัสวิน หรือ “เจมส์ บางบอนด์” อายุ 25 ปี

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 647/2567 ลงวันที่ 25 ก.ค.67 ข้อหา “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนในเคหะสถาน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต่างกรรมต่างวาระ” จับกุมตัวได้ที่ ริมป่าข้างคลอง แนวรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 3 ส.ค.67 เวลา 16.15 น.ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบประวัติเคยก่อคดีอาญา 4 คดีคือ วันที่ 9 ส.ค.62 ถูกจับกุมข้อหา “มียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองฯ” พื้นที่ สน.หลักสอง, วันที่ 8 ธ.ค. 66 ก่อเหตุ “ลักทรัพย์ฯ” ขโมยซองผ้าป่า พื้นที่ สน.ท่าข้าม, วันที่ 23 พ.ค. 67 ก่อเหตุ “ลักทรัพย์ฯ” ขโมยนาฬิกาในห้างสรรพสินค้า พื้นที่ สน.ภาษีเจริญ,

วันที่ 17, 19, 20, 21, 22, 24, 26, 27 มิ.ย. 67 (8 วัน) ก่อเหตุ “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนในเคหะสถานฯ” ซุ่มดูเหยื่อก่อนแอบขโมยคีย์การ์ดขึ้นไปลักของบนห้องพัก พื้นที่ สน.เพชรเกษม

สืบเนื่องจากเมื่อมีคนร้ายรายหนึ่งวางแผนกระทำการบางอย่างกับนายตำรวจระดับ “สารวัตร” สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยนายตำรวจผู้เสียหายถูกคนร้ายสะกดรอยมาเป็นเวลานานกว่า 10 วัน และยังถูกแอบเข้าไปรื้อค้นในห้องพักกว่า 8 ครั้ง

เรื่องราวซับซ้อนนี้แดงขึ้นเมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อนายตำรวจผู้เสียหายกลับเข้ามาที่ห้องพักในคอนโดชื่อดังย่านบางแค แล้วพบว่าข้าวของบางอย่างถูกขยับเขยื้อนและเมื่อตรวจสอบในห้องโดยละเอียดทำให้ทราบว่ามีสิ่งของบางอย่างหายไป จึงลงมือสืบสวนเบื้องต้นด้วยตัวเอง แล้วพบว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น “บุกเดี่ยว” เข้ามาในห้องพักของตนเองกว่า 5 นาที ก่อนหลบหนีออกไป

ซึ่งหลังทราบเรื่องนายตำรวจผู้เสียหายจึงรีบเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีในทันที ซึ่งแรกเริ่มเหมือนจะเป็นคดีลักทรัพย์ทั่วไป แต่ที่สร้างความฉงนใจคือ “คนร้ายขึ้นคอนโดไปได้อย่างไร” ทั้งที่ภายในคอนโดมีระบบความปลอดภัยที่หนาแน่น ชุดสืบสวนจึงเริ่มสืบสวนโดยละเอียดไล่ไทมไลน์ย้อนหลังไปจนได้ข้อมูลที่ทำเอาขนลุก

เพราะนายตำรวจผู้เสียหายถูกคนร้ายสะกดรอยเฝ้าดูพฤติกรรมมาเป็นเวลากว่า 10 วันแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นคนร้ายยังแอบย่องเข้าไปในห้องของนายตำรวจผู้เสียหายมาแล้วกว่า 7 ครั้ง ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุในครั้งที่ 8 โดยคนร้ายสะกดรอยจนทราบที่เก็บ “คีย์การ์ดสำรอง” ของนายตำรวจผู้เสียหายที่ถูกเก็บไว้ใน Mail Box (ช่องตู้ไปร์ษณีย์) ที่อยู่ชั้นล่างของอาคารคอนโด

และใช้จังหวะเมื่อนายตำรวจผู้เสียหายเดินทางออกไปทำงานหรือไม่อยู่ที่ห้องพัก คนร้ายจะแอบไปหยิบคีย์การ์ดสำรองดังกล่าว ทำให้สามารถขึ้นตึกและเข้าไปสอดแนมภายในห้องพักได้ แล้วเมื่อเสร็จภารกิจลับก็จะนำคีย์การ์ดนั้นมาเก็บไว้ที่เดิม เสมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ที่น่าสงสัยให้กับนายตำรวจผู้เสียหายที่สุดคือ “คนร้ายทราบชั้นห้องพัก” ได้อย่างไร เสมือนคนร้ายทราบข้อมูลของนายตำรวจผู้เสียหายอย่างละเอียดยิบ อีกทั้งทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากภายในห้องพักกลับไม่ถูกขโมยไป เสมือนคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่อาจมีเจตนาแอบแฝงที่ร้ายมากไปกว่านั้น

ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. และ กก.สส.บก.น. 9 ร่วมกันเร่งสืบสวนใช้เวลากว่า 1 เดือนสืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้ เพราะพฤติกรรมสุดจะซับซ้อน เสมือนเลียนแบบมาจากภาพยนตร์ กระทั่งสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายและออกหมายจับ ซึ่งก็คือ นายมนัสวิน หรือ “เจมส์-บางบอนด์” โดยพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งทีมไล่ล่าติดตามจับกุมตัวคนร้าย

โดยการสืบสวนติดตามพบว่าหลังจากก่อเหตุในวันสุดท้าย (27 มิ.ย. 67) คนร้ายหายตัวไปเป็นคนไร้ตัวตน ต่อมาสืบทราบว่าคนร้ายร่อนเร่พเนจรไปนอนตามป้ายรถเมล์ ปั๊มน้ำมัน ซึ่งชุดสืบสวนติดตามไล่ล่าตีล้อมวงจนคนร้ายไปจนมุมที่ ริมป่าข้างคลอง แนวรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

ในชั้นจับกุม นายมนัสวิน หรือ “เจมส์-บางบอนด์” ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบการศึกษาชั้น ม.6 และต่อ ปวช.สายช่างก่อสร้าง แต่เรียนไม่จบ ในปัจจุบันเป็นคนตกงานและไม่เป็นที่ยอมรับของครอบครัว จึงชอบร่อนเร่ไปพักอาศัยตามที่ต่างๆไปเรื่อย

ส่วนทางคดีตนไม่ได้หวังปองร้าย ไม่ได้รับงานใครมา ตนเองแค่มานั่งสังเกตการณ์บริเวณใต้อาคารคอนโดที่เกิดเหตุบ่อยๆ แล้วเห็นว่าห้องของนายตำรวจผู้เสียหายมักซ่อนกุญแจและคีย์การ์ดสำรองไว้ในช่อง Mail Box ตนเป็นคนตกงานและทางบ้านของภรรยาไม่ค่อยยอมรับ จึงตั้งใจจะขึ้นไปนอนบนห้องของผู้เสียหาย ขณะที่เขาไม่อยู่เท่านั้น ไม่ได้คิดจะสอดแนมหรือปองร้ายใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนที่มาถูกจับกุมที่นี่ไม่ได้หลบหนีมา แต่ได้งานทำใหม่ที่นี่ ส่วนที่ไม่ได้อยู่ละแวกบางบอนเช่นเดิมนั้น เพราะหลังก่อเหตุตนเองมีความรู้สึกว่าเหยื่อน่าจะรู้ตัว และมีเจ้าหน้าที่บางส่วนมาติดตาม จึงออกร่อนเร่เดินเท้าไปอย่างไร้จุดหมายและมาถูกจับกุม” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ดำเนินคดีต่อไป… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9344213

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *