เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 16 ต.ค. 2567 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารดิไอคอน กรุ๊ป กล่าวถึงการเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากดิไอคอนกรุ๊ป
โดยนายวิฑูรย์ ว่า ตอนนี้มีการประชุมกันอยู่ว่าจะมีแนวทางอย่างไร ซึ่งคนที่ขายของไม่ได้ที่เกิดจากการสื่อสารผิดพลาดของตัวแทนบางคนที่ให้ไปหาคนเพิ่ม และกลุ่มคนที่นำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา โดยไม่ได้ประเมินว่าตัวเองเหมาะกับการซื้อแบบขายส่ง 25,000 บาท หรือการซื้อแบบดีลเลอร์ 25,000 บาท
ตามที่ตนเห็นในข่าว คนกลุ่มนี้สิ้นเนื้อประดาตัว บางคนโดนภรรยาไล่ออกจากบ้าน ทางบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจะออกประกาศแบบมีเงื่อนไข โดยให้มาลงชื่อไว้เป็นหลักฐานให้เราตรวจสอบว่าเสียหายจริงหรือไม่ ซื้อของแล้วได้รับสินค้าจริงหรือไม่ และจะมีการช่วยเหลือบรรเทาให้
เมื่อถามว่าแต่ในตอนนี้บอสพอลถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์ จะกระทบต่อเงินที่นำมาเยียวยาผู้เสียหายหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า หากพูดจริงๆ ก็กระทบ แต่คงจะต้องหาทางเพื่อนำทรัพย์สินตรงนี้มาจ่ายให้ผู้เสียหาย ซึ่งปปง.ได้อายัดทรัพย์ไว้ 90 วัน ตนก็มีความหวังว่าให้ผู้เสียหายลงชื่อไว้ก่อน อีก 90 วันเมื่อได้รับเงินกลับคืนมา อาจจะใช้เงินส่วนนี้มาจ่ายให้ก็ได้
เมื่อถามว่าดาราที่เป็นบอสต้องมีส่วนร่วมในการนำเงินมาชดใช้ให้ผู้เสียหายหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนว่าไม่เกี่ยวกับเขา ให้ทางบอสพอลรับจบดีกว่า ส่วนบอสที่เป็นดาราจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตำรวจ ตนไม่รู้ว่าตำรวจจะมองอย่างไร ให้ตำรวจทำหน้าที่ไปตามกระบวนการ
ส่วนกรณีที่ตัวแทนตัดสินใจจบชีวิตจากการขายสินค้าไม่ได้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ทางบอสพอลจะติดต่อไป ซึ่งได้ประสานงานเบื้องต้นไปแล้ว
เมื่อถามว่าการอายัดทรัพย์ เนื่องจากปปง.มองว่า มีการโยกย้ายทรัพย์สินแบบผิดปกติ นายวิฑูรย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ อ่านในคำสั่งก็ไม่มี ปปง.น่าจะยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบก่อน เชื่อว่าปปง.ทำตามหน้าที่ ตนไม่ขอก้าวล่วง
เมื่อถามถึงความรู้สึกของบอสพอล หลังปปง.อายัดทรัพย์ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เมื่อวาน (15 ต.ค.) ได้เจอกับบอสพอล เจ้าตัวก็พูดไม่ออก ซึ่งไม่ได้คุยกันในรายละเอียด
เมื่อถามกรณีมีข่าวบุคคลอักษรย่อ ธ. ที่เป็นนักการเมืองมาเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ มีแต่คนที่ออกมาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ชื่อนายธเนตร วงษา อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ซึ่งทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ไม่น่าจะเป็น ธ. ที่เป็นนักการเมือง
เมื่อถามว่าเคยมีนักการเมืองมาพบกับบอสพอลหรือเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ปหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนเป็นทีมกฎหมาย ก็ไม่เคยเจอนักการเมืองเข้ามาวุ่นวาย
ส่วนกรณีที่บอสพอลบอกให้สื่อลบคลิปเสียงสนทนากับนักการเมืองออก ไม่เช่นนั้นจะฟ้องสื่อมวลชน มีการกำชับว่าจะฟ้องสื่อใดบ้าง นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่ทราบ และไม่ใช่ตนพูดไป ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนั้นบอสพอลเป็นอย่างไร น่าจะกำลังเครียด และตอนนี้ได้ลบโพสต์ไปแล้ว ทั้งนี้ ตนจะไปฟ้องสื่อทำไม มันไม่มีประโยชน์
เมื่อถามว่าหลังจากที่บอสพอลไปออกรายการ 2 รายการ มีความรู้สึกเครียดหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า กระแสออกมาขนาดนี้ก็ต้องเครียด พูดตรงๆ ก็ต้องเครียด เป็นตน ตนก็เครียด
ส่วนเตรียมพร้อมเรื่องการถูกดำเนินคดีอย่างไรบ้างนั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอดูข้อกล่าวหาจากตำรวจก่อน ตนถึงจะสามารถพยากรณ์ได้ แต่ขออนุญาตยังไม่พูด ขอให้เป็นความลับทางคดี
เมื่อถามว่ายังเชื่อมั่นอยู่หรือไม่ว่าธุรกิจนี้จะยังสามารถดำเนินต่อไปได้ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนยังมีความเชื่อมั่น และสงสารตัวแทนที่เขาขายของได้ ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อ แต่รูปแบบธุรกิจ ตามที่พูดไว้ในรายการ คือไม่รับตัวแทนใหม่