ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้มีใต้ถุนสูง พบศพผู้เสียชีวิต ในสภาพนอนตะแคงอยู่บนพื้นหน้าบ้าน ทราบชื่อคือ นายสุชาติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/15 หมู่ 6 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช

ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง เข้าที่ซอกคอ 1 นัด และหน้าอกอีก 1 นัด เม็ดกระสุนกระจายบริเวณลำตัว ใกล้ศพพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเทาดำ แถบขาว จอดอยู่

สอบสวนทราบว่า บ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านของนายคล่อง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 79 ปี ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายคล่อง และบุตรสาว คือนางอมรรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี กำลังอยู่บนบ้าน ได้มีนายสุชาติ ผู้ตาย ซึ่งเป็นสามีของนางอมรรัตน์ ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาหานางอมรรัตน์ และตะโกนให้นางอมรรัตน์ ลงมาจากบ้าน ให้กลับไปอยู่บ้านที่ตำบลนาหมอบุญ ซึ่งเป็นตำบลติดกัน และเกิดการโต้เถียงกัน

โดยนายสุชาติขับรถพ่วงข้างวนหน้าบ้าน ปากก็พูดขู่ จะบุกขึ้นไปทำร้าย ลากตัวนางอมรรัตน์ ลงมาจากบ้าน หากไม่ยอมลงมาขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง กลับไปกับตน

ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น เมื่อนางอมรรัตน์ ได้ใช้ปืนลูกซองยาว พาดหน้าต่างเล็งยิงใส่ร่างของนายสุชาติจนผงะ

ก่อนที่นางอมรรัตน์จะบรรจุกระสุนอีกนัดยิงซ้ำ จนนายสุชาติ พลัดตกจากรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตกล ผกก.สภ.จุฬาภรณ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายสุชาติและนางอมรรัตน์ มีอาชีพทำสวน ทั้งคู่จดทะเบียนสมรส แต่งงานอยู่กินกันมานานแล้ว มีลูกชาย 1 คน อายุ 18 ปี แต่ในช่วงหลังวิถีชีวิตของนายสุชาติสามีเปลี่ยนไป โดยไปพัวพันกับยาเสพติด ทำให้ทั้งคู่มีเรื่องระหองระแหงกันเรื่อยมา

กระทั่งต่อมา นายสุชาติถูกจับกุมในคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองและคดีลักทรัพย์ ต้องโทษอยู่ในเรือนจำกว่า 2 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อไม่นานมานี้ โดยเมื่อพ้นโทษออกมา ความประพฤติหรือพฤติกรรมแย่ลงกว่าเดิม และมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยา ทำร้ายร่างกายภรรยาที่พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันที่บ้านของนายสุชาติในตำบลนาหมอบุญ เป็นประจำ จนนางอมรรัตน์ขอหย่ามาหลายครั้ง แต่นายสุชาติไม่ยอมให้หย่า

ล่าสุดก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอีก นางอมรรัตน์ถูกนายสุชาติสามีตบตีทำร้ายร่างกาย จึงหนีออกมาจากบ้านของสามี กลับมาขอพักอาศัยอยู่บ้านเดิมหรือบ้านพ่อ คือบ้านของนายคล่อง

ต่อมาในช่วงเย็น นายสุชาติได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาติดตามและข่มขู่จะบุกขึ้นไปทำร้าย เป็นเหตุให้นางอมรรัตน์ตัดสินใจใช้ปืนลูกซองประทับหน้าต่างยิงนายสุชาติสามีจนเสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้นางอมรรัตน์ ได้รอมอบตัวและมอบอาวุธปืนของกลางกับตำรวจ ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุยิงสามีเพราะเกรงจะถูกทำร้ายอีก

ผกก.สภ.จุฬาภรณ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนลูกซองยาวดังกล่าว เป็นปืนมีทะเบียนของนายคล่อง เจ้าของบ้าน ซึ่งมีใบอนุญาตให้ครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย

ในชั้นนี้ตำรวจได้นำตัวนางอมรรัตน์ ไปตรวจเขม่าดินปืนที่โรงพักและจะได้สอบปากคำเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป