จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากหญิง อายุ 80 ปี ว่าตนเองได้เปิดสถานีบริการน้ำมัน ใน จ.สระบุรี จากนั้นได้ขยายกิจการโดยซื้อที่ดินติดกับปั๊มน้ำมันเก่า แต่เพราะเจ้าของที่ไม่ยอมขายให้จน จึงใช้ชื่อของลูกชายและหลานๆ อีก 3 คน ในการซื้อ แต่ตนเป็นคนจ่ายเงิน ราคา 65 ล้านบาท โดยที่ไม่คิดว่าลูกและหลานๆ จะโกง แต่สุดท้ายกลับโดนหลานกีดกันไม่ให้ยุ่งเรื่องเงินและการบริหาร จ้าง รปภ. มาคุม จนกลัวว่าปั๊มจะเจ๊งเพราะหลานเอาแต่เที่ยวเตร่ จึงได้ฟ้องศาลเพื่อนำปั๊มกลับมาบริหารเองนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังปั๊มน้ำมันดังกล่าว พบหญิงผู้ร้องเรียน ซึ่งได้เล่าว่า หลังจากที่ได้ขึ้นศาลครั้งล่าสุด ทนายของหลานชายได้เสนอมาว่า “ถ้าอยากได้ปั๊มคืน ให้จ่ายเงิน 300 ล้านบาท แล้วจะให้คืน” ซึ่งตนตอบว่าไม่เอา เพราะตนจะเอาเงินจากไหนไปซื้อ และอีกอย่างของก็เป็นของๆ ตอนอยู่แล้ว ตนจะไปซื้อทำไม โดยตนอยากให้หลานมาเซ็นคืนให้ทั้งหมด ก็จบกัน
ในความเป็นจริงแล้ว พวกหลานๆ ก็ไม่มีอะไรมาเลย แต่ถ้าทางหลานไม่ยอมคืนให้ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งตอนนี้ตนได้ฟ้องหลานทั้ง 3 คน ทั้งหมด 4 คดี เป็นคดีเพ่ง 1 คดี เกี่ยวกับการเอาที่ดิกับบริษัทกลับคืน ส่วนคดีอาญาอีก 3 คดี มีวิ่งราวทรัพย์ นำคิวอาร์โค้ดไปขึ้นเงิน และบุกรุก ซึ่งจะต้องขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 19 พ.ย. นี้ ตอนนี้อยู่ระหว่างสืบพยาน
ส่วนตัวแล้วตนมั่นใจ เนื่องจากมีเอกสารในการต่อสู้เป็นจำนวนมาก ในอนาคตถ้าตนชนะคดี พื้นที่ตรงนี้ตนคิดว่าจะทำเป็นมูลนิธิหรืออะไรสักอย่างเพื่อคนที่ไม่มีกินไม่มีใช้ ให้มาขอความช่วยเหลือ ก็จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป แต่ถ้าหลานๆ พวกนี้ จะเข้ามาขอ ตนยืนยันเลยว่าจะไม่ให้ เขาจะได้รู้สึกตัวเองว่าได้ทำอะไรไว้บ้าง
ตอนซื้อที่ดินเป็นชื่อลูกและหลานๆ ตนก็ได้บอกไว้แล้วว่า ย่าจะขอดูแลเองจนกว่าย่าจะตาย แต่กลับมาเป็นแบบนี้ ตอนนี้หลานได้เข้ามาคุมการเงิน เข้ามาเก็บทุกวัน ส่วนตนจะเก็บเงินได้ก็แค่ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านของฝากและพวกที่มาเช่าอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ร้านค้าก็กลัวพวกหลานๆ แต่เมื่อตนอธิบายให้ทางร้านค้าเข้าใจก็คลายกังวล และนำเงินมาส่งให้กับตนแล้ว รวมถึงร้านต่างๆ ที่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายค่าสินค้าได้ ตนได้เปลี่ยนเป็นบัญชีของตนแล้ว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หญิงผู้ร้องเรียนเดินอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน โดยมี รปภ. คอยติดตามดูตลอดและมีการถ่ายคลิปไว้ด้วย
จากการสอบถามแม่ค้าภายในปั๊มน้ำมัน เล่าว่า ภายในปั๊มมีแต่ความวุ่นวายมาโดยตลอด มีแต่คนคอยจะเล่นงานป้า โดยเฉพาะพวก รปภ. ก็จะคอยตีป้า อ้างว่าป้าไปตบเขา จะคอยเดินเบียดตลอด ทำให้ป้าเกิดความโมโห ความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นมานานหลายเดือนแล้ว
ด้านนายเกรียงศักดิ์ ดีสูงเนิน ทนายความ ได้เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า ตอนนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับหลานๆ ไป ทั้งบุกรุก, วิ่งราว และยักยอกทรัพย์
ส่วนคดีปั๊มน้ำมันนั้น ตอนนี้ฟ้องในเรื่องคืนที่ดินและให้โอนบริษัทคืน ศาลนัดสืบพยานต่อเนื่องวันที่ 19-22 พ.ย. และต้นเดือน ธ.ค. หลังจากนั้นประมาณ 1-2 เดือน ศาลน่าจะตัดสิน
ช่วงใกล้สืบพยานปัญหามันแรงขึ้นเรื่องๆ ลูกความตนจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ เนื่องจากเอกสารโอนเปลี่ยนมือไปค่อนข้างเยอะ ส่วนในเรื่องคดีนั้นตนมองว่าอยู่ที่พยานหลักฐานที่มี แนวโน้มโอกาสที่จะชนะคดีมีอยู่ เนื่องจากลูกความมีเส้นทางการเงินที่จะชี้แจง ก่อนหน้านี้ได้มีการไกล่เกลี่ยกันถึง 3 รอบแล้ว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังหลานคนหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์ที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เนื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาล และศาลได้นัดไต่สวนสืบพยานแล้ว เกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี
โดยหลานเผยว่า ทั้งหมดเป็นกิจการของตน เรื่องเงินลงทุนตนได้กู้มาจำนวน 100 ล้านบาท พ่อตนกู้มาให้ และในตอนนี้ตนยังไม่อยากที่จะแก้อะไรไปในข่าว เกรงว่าจะเข้าตัวเอง ซึ่งถ้าตนพูดไปมันจะเป็นการนำไปสืบเป็นข้อโต้แย้งในชั้นศาลได้
แต่ตนขอยืนยันว่า เงินกู้ธนาคารนั้นเป็นชื่อ 3 คนพี่น้อง ตนเป็นผู้กู้และทำมา ส่วนการชำระหนี้ที่หมดภายใน 6 ปีนั้นเป็นเงินของบริษัท เพราะย่าตนไม่มีมรดก การผ่อนส่งก็ติดขัดมาโดยตลอด ไม่ใช่ว่าจะราบรื่น
ตนไม่อยากออกมาชี้แจง เพราะจะถูกมองว่าเด็กไปรังแกผู้ใหญ่ อย่างไรก็จะโดนโจมตีอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ แล้ว ผู้ใหญ่รังแกเด็ก ใช้ความเป็นผู้ใหญ่มารังแกตน ทุกสิ่งทุกอย่างตนมีหลักฐานหมดว่าพ่อตนเป็นคนกู้ ตนเป็นคนใช้หนี้ธนาคาร ถ้าไม่มีจริงตนคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ เขาคงเอากลับไปหมดแล้ว ณ วันนี้เอกสารสิทธิ์ทุกอย่างเป็นของพวกตนทั้งหมด แล้วจะมาเรียกร้องของตนไปเพื่ออะไร และตนก็ยังเลี้ยงดูอยู่ตลอดเวลา