จากกรณีที่ทางครอบครัวของ น.ส.นรีกานต์ หรือหญิง วัย 19 ปี ที่เสียชีวิตปริศนา โดยผู้ต้องหาอ้างว่าตกรถเทรลเลอร์ พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม เดินทางมาร้องเรียนและร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. สมัยดำรงตำแหน่งเป็น ผบช.ภ.1 ในตอนนั้น
โดยทางนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พยายามเปลี่ยนคดีน้องหญิงตกรถให้เป็นแค่อุบัติเหตุ รอดในศาลชั้นต้น แต่สุดท้ายฎีกาให้ความยุติธรรมน้อง เพราะตรวจพบรอยช้ำหลายจุด จากการโดนตีหัว ด้วยของแข็ง จนลูกความทนายตั้มโดนพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต โดยเหตุเกิดตั้งแต่ปลายปี 2561
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับคุณพ่อของน้องหญิงที่บ้าน โดยทางคุณพ่อได้เปิดบ้านพร้อมนำสิ่งของ เช่นกระเป๋าที่น้องสะพายไปในวันที่เกิดเหตุออกมาให้ผู้สื่อข่าวได้ดู พร้อมทั้งเล่าย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตั้งแต่เริ่มต้นของคดี ตนก็ไปร้องกับทางนายอัจฉริยะ ให้เข้ามาช่วยเหลือในคดีนี้ แล้วตอนหลังก็มีทนายคนหนึ่งที่เข้าไปช่วยของฝั่งจำเลยแล้วเขาก็ออกไปจนทนายตั้มเข้ามาแทนมาช่วยฝั่งคู่กรณี
โดยการสู้คดีศาลชั้นต้นได้ตัดสินคดีว่าให้ยกฟ้องทางจำเลย ตอนนั้นทางทนายตั้มได้เข้ามาช่วยเหลือฝั่งเขาแล้ว เราก็ต่อสู้ทางคดีมาตลอด เพราะมองว่าที่น้องหญิงตกรถไม่ใช่อุบัติเหตุ ทนายตั้มช่วยสู้คดีให้คู่กรณีจนสุดถึงฎีกาเลย พอศาลอุทธรณ์เราก็ไปหาข้อมูลใหม่ๆเข้ามาเพื่อยื่นต่อศาลอุทธรณ์ พอถึงขั้นศาลอุทธรณ์เราก็ชนะคดี ศาลตัดสินให้จำเลยจำคุกตลอดชีวิต
ส่วนทางนายอัจฉริยะได้เข้ามาช่วยเหลือตนตั้งแต่แรก พาไปกองปราบ พาไปร้องทำทุกอย่าง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งในตอนนั้นก็มีหลายคนถามเข้ามาว่านายอัจฉริยะเรียกร้องอะไรไหม ตนต้องขอบคุณนายอัจฉริยะมากๆ เลยว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ตนไม่เคยเสียเงินเลยสักบาท มีแต่พี่เขาคอยช่วยจ่ายค่าเดินทาง ค่าน้ำค่าข้าวให้ ตนอยากฝากถึงนายอัจฉริยะว่า “ขอบคุณพี่อัจฉริยะมาก ถ้าไม่มีพี่ลูกผมคงจะตายฟรี คดีคงจะไม่ถึงศาลฎีกาคงจะจบด้วยลูกสาวตายฟรี”
ทั้งนี้ ตนก็อยากฝากถึงทนายตั้ม ว่าเขาทำอะไรไว้ก็ขอให้เป็นไปตามผลกรรมที่เขาเคยทำ ตอนนี้เยอะมากที่เขาเจอ ใครทำอะไรไว้ก็ขอให้ได้รับผลกรรมไปตามนั้นก็ขอให้เป็นไปตามกรรมของการกระทำ