พรรคประชาชน ปลุก เร่งทำรธน.ฉบับใหม่ ปลดอาวุธองค์กรอิสระ มั่นใจไร้งูเห่าโหวตนายกฯ

Author:

‘พรรคประชาชน’ ลั่น ถึงเวลาจัดทำรธน.ฉบับใหม่ ปลดอาวุธองค์กรอิสระ ชี้เรื่องจริยธรรม ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน มั่นใจ ไร้งูเห่าโหวตนายกฯ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงจุดยืนของพรรคประชาชน จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ว่า ขอแสดงความกังวล และไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พรรคประชาชนยืนยันว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ควรมีจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต แต่จริยธรรมต่างคนต่างตีความไม่เหมือนกัน ดังนั้น ตราบใดที่การกระทำเป็นการทุจริตอย่างโจ่งแจ้งตามที่มีบทลงโทษทางกฎหมายครอบคลุมไว้ชัดเจนอยู่แล้ว เรื่องจริยธรรมนั้นควรเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองที่ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

พรรคประชาชนจึงไม่เห็นด้วยที่รัฐธรรมนูญ 2560 ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ผูกขาดการตีความเรื่องมาตรฐานจริยธรรมตามดุลพินิจของตนเอง จนเสี่ยงถูกใช้เป็นเครื่องมือในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน อย่างกรณีของนายเศรษฐา ในวันนี้

“พรรคประชาชนมีความเชื่อว่า เหตุการณ์ในวันนี้จะทำให้สังคมทุกฝ่าย และพรรคการเมืองทุกพรรค เห็นชัดขึ้นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และความจำเป็นในการทบทวนขอบเขตอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ รวมถึงการกำหนดให้มาตรฐานทางจริยธรรมเป็นเรื่องของความรับผิดชอบทางการเมือง ในส่วนของ สส.พรรคประชาชน ทุกคนจะเดินหน้าทำงานต่อในฐานะสส. เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป” นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่ามีความกังวลในเรื่องของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่คดียุบก้าวไกล จนมาถึงคดีนายเศรษฐา นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทั้ง 2 เหตุการณ์ ถึงจะเป็นคนละกรณีกัน ยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามมากขึ้น ถึงการทบทวนอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ

หากยังมีอยู่จะทำอย่างไรให้อำนาจมีความเหมาะสม ให้อยู่ในขอบเขตหรือจะทำอย่างไรให้มีกระบวนการได้มาซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระที่มีความยึดโยงกับประชาชน รวมถึงออกแบบกฎกติกาและการตรวจสอบถ่วงดุลองค์กรอิสระด้วยเช่นกัน

ซึ่งในเชิงรูปธรรมการทบทวนเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระนั้น ต้องทำผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้สังคมเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากขึ้น และทางพรรคประชาชนหวังว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะถูกร่างโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ของประชาชน

เมื่อถามว่าทางพรรคมีการพูดคุยในการโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งถัดไปหรือไม่ เนื่องจากพรรคประชาชนไม่มีแคนดิเดตนายกฯ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในขั้นตอนถัดไปเป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะมีการเสนอบุคคลใดมาดำรงตำแหน่งนายกฯ

ในส่วนของพรรคประชาชนเราทำหน้าที่เป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้าน จากการยุบพรรคก้าวไกล ในเชิงนิตินัย พรรคประชาชนไม่มีแคนดิเดตนายกฯ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล ก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

โดยพรรคประชาชนจะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบทบาทในการตรวจสอบถ่วงดุล รวมถึงผลักดันวาระที่เราคิดว่ามีความสำคัญกับประชาชน

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยเรื่องงูเห่าในการโหวตนายกฯ ครั้งถัดไปหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนมีความเชื่อมั่นว่า สส.ของพรรคประชาชน ทั้ง 143 คน จะเดินหน้าทำงานต่อเป็นเอกภาพที่สอดรับกับอุดมการณ์ และจุดยืนของพรรคประชาชนที่สืบเนื่องมาจากพรรคก้าวไกล

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็น สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มาสมัครสมาชิกพรรคประชาชน อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นเอกภาพด้วยเวลาอันรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครมีอาการลังเลนั้น ก็น่าจะเป็นหลักฐานที่ประจักษ์แล้วว่า สส.ของพรรคประชาชน จะร่วมกันเดินหน้าอย่างเป็นเอกภาพ

เมื่อถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าจะมีการยุบสภาฯ เนื่องจากนายกฯ รักษาการ มีอำนาจในการยุบสภาฯ และพรรคประชาชนจะไม่สามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ เนื่องจากสังกัดพรรคไม่ถึง 30 วัน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 2560 นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรามีการวิเคราะห์ทุกฉากทัศน์ ซึ่งในคำถามเป็นแค่ 1 ในฉากทัศน์ และไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้น

ส่วนนายกฯ คนต่อไปควรจะมาจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลต้องพูดคุยกัน แต่ไม่ว่าจะเสนอชื่อใครก็ตาม ทางพรรคประชาชนก็ทำหน้าที่ต่อไปในพรรคแกนนำฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบรัฐบาลต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *