แม่เรียกกู้ภัย เห็นลูกป่วยหนัก สุดท้ายเกิดอุบัติเหตุ ชนรถเมล์ แม่ขาหัก ลูกสาวร่ำไห้รู้สึกผิด เป็นต้นเหตุให้แม่เจ็บ
จากกรณี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู รับแจ้งมีผู้บาดเจ็บ อุบัติเหตุรถเมล์ชนกับรถตู้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่อนุสาวรีย์ชันสมรภูมิ กทม. บริเวณเกาะดินแดง พบรถเมล์สาย36 ชนกับรถตู้ชนอยู่ในสภาพพลิกตะแคงข้าง เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หลายรายที่นอนเจ็บอยู่บนฟุตปาธ
ต่อมาวันที่ 14 ส.ค. 67 นางเรณู มากทอง อายุ 68 ปี แม่ของ ส.ต.อ.หญิง กำไล มากทอง อายุ 33 ปี ตำรวจฝ่ายอำนวยการ สน.บางโพ ผู้ป่วยที่อยู่ในรถกู้ชีพเอราวัณ คันที่ชนกับรถเมล์สาย 36 เมื่อวานนี้ เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมแจ้งอาการบาดเจ็บล่าสุด
นางเรณู กล่าวว่า เมื่อวานนี้ลูกสาวมีอาการแน่นหน้าอก จากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ซึ่งตอนแรกตนกับลูกจะนั่งรถเมล์ไป แต่อาการลูกไม่ไหว จึงเรียกรถกู้ชีพเอราวัณ เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ก็ดูแลดีมีการตรวจวัดคลื่นหัวใจให้น้ำเกลือ ยืนยันว่าตลอดเส้นทางทางรถกู้ชีพเปิดเสียงไซเรนมาตลอด
เมื่อถึงที่เกิดเหตุจำได้ว่าเป็นทางโค้งแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ตอนนั้นแม่นั่งท้ายรถกู้ชีพ วินาทีแรกที่เห็นคือเห็นเปลลูกกลิ้งเทมาด้านข้างรถ ตนเป็นห่วงลูกมาก กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไป กลัวลูกจะเป็นหนักกว่าเดิม
โดยตนไม่ได้ห่วงตัวเองเลย แม้ตอนนั้นจะตนจะถูกโครงเหล็กทับมาที่ขา และศีรษะกระแทก สายตาพยายามมองหาแต่ลูก และเมื่อไม่ได้ยินเสียงลูก ก็คิดว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่นอน
- อ่าน ระทึก รถเมล์เสยรถตู้พลิกคว่ำ เกาะดินแดง อนุสาวรีย์ชัยฯ กู้ภัยเร่งช่วย เจ็บระนาว
หลังจากรถผลิกคว่ำ ก็มีคนเข้ามาช่วยเหลือเยอะมาก ตนก็ถูกแยกกับลูกไป และตนก็บอกว่าไปช่วยลูกสาวก่อน ค่อยมาดูตนก็ได้ สายตาพยายามมองลูกจากไกล ๆ เพราะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยลูกเยอะมาก จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเห็นว่าขาข้างซ้ายตนหัก จากนั้นก็พาตัวตนและลูกไปส่งที่รพ.ตำรวจ
เมื่อถึง รพ.ตำรวจ ก็การ CT Scan และดูอาการของทั้งคู่ ซึ่งแม่มีอาการขาหักที่ขาซ้าย ส่วน ลูกสาว ศีรษะแตก แน่นหน้าอก และเจ็บตามร่างกาย แต่หมอไม่ได้ให้แอดมิด
ขณะที่ ส.ต.อ.หญิง กำไล กล่าวว่า ทางโรงพยาบาล บอกว่า แม่ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ส่วนลูกสาวนั้นก็ไม่สามารถนอนได้ เนื่องจากเตียงเต็ม เลยให้กลับมาดูอาการที่บ้าน แต่ตนมารู้ทีหลังว่า แม่จะต้องผ่าตัดที่ขา ซึ่งตนก็สงสัยว่าทำไมไม่ให้แม่นอนดูอาการ
“ตอนนี้รู้สึกผิดและเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุพาแม่ไปเจ็บตัว เพราะตอนเกิดเหตุแทบก็ไม่ได้ยินเสียงแม่เลย ก็กลัวว่าแม่จะเป็นอะไร แลถยิ่งมารู้ว่าแม่ขาหักก็ยิ่งเสียใจ ”
ส่วนค่ารักษาพยาบาล นางเรณู กล่าวว่า ทางศูนย์เอราวัณเข้ามารับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายให้ ทั้งนี้ตนไม่ได้อยากเอาผิดใคร ไม่อยากให้เป็นคดีความ ขอเพียงแค่ช่วยรักษาตนและลูกจนหายก็พอ ตนก็รู้สึกผิดที่เป็นคนเรียกรถให้มารับแล้วไปเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ทางผู้อำนวยการเขตเดินรถที่ 4 และเจ้าหน้าที่ พร้อมนาย สมศักดิ์ งามสมพล พนักงานขับรถเมล์ ก็ได้เดินทางมาเยี่ยม และมอบเงินเยียวยาพร้อมสอบถามอาการ โดยนายสมศักดิ์ ได้เข้าไปไหว้ขอโทษ นายเรณู และลูกสาว ซึ่งนางเรณูก็บอกว่าไม่เป็นไร มันเป็นอุบัติเหตุ