“ผู้ช่วยสำราญ-บิ๊กหยาม” ร่วม แถลงผลงานตำรวจ บก.น.6 สกัด กั้นยาบ้าลอตมหึมา 15.6 ล้านเม็ด ก่อนเข้ากรุง จับ 1 ผู้ต้องหาเป็นหนุ่มโรงงานอ้างหาอาชีพเสริมขับรถกระบะแบบมีคอกขนอำพรางยานรกด้วยสินค้าอุปโภคบริโภคที่ผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านหวังตบตาเจ้าหน้าที่แต่ไม่สำเร็จ สารภาพได้ค่าจ้างครั้งละ 1 หมื่นถึง 3 หมื่นบาท เผยเบื้องหลังจับกุมขยายผลจากผู้ค้าที่ถูกจับได้ก่อนหน้าจนทราบว่าเครือข่ายยานรกกลุ่มนี้จะใช้บุคคลที่ไม่มีประวัติอาชญากรรมเป็นนักบินลำเลียงมาเก็บไว้สถานที่พักยาในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ตำรวจนครบาล 6 จับยาบ้าลอตมหึมา 15.6 ล้านเม็ด เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ธ.ค.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.กก. สส.บก.น.6 ร่วมแถลงผลจับกุมนายวีรเทพ พรรณวิเชียร หรือเทพ คลองจิก อายุ 29 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางยาบ้า 78 กระสอบ กระสอบละ 200,000 เม็ด รวม 15.6 ล้านเม็ด รถยนต์กระบะโตโยต้า สีเทา มีคอกสูง ทะเบียน บห 204 กาญจนบุรี 1 คัน
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้เริ่มจากชุดสืบสวน บก.น.6 สืบสวนขยายผลจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่ล่อซื้อผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.66 จนนำไปสู่การจับกุมผู้ค้ารายสำคัญหลายรายตรวจยึดของกลางจำนวนมาก จากการสืบสวนต่อเนื่องพบเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวเมื่อถูกจับกุมแล้วจะนำคนอื่นในเครือข่ายที่ไม่เคยมีประวัติมาทำหน้าที่แทน เมื่อติดตามพฤติการณ์ต่อเนื่องพบว่าช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดย่านเชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการเคลื่อนไหวลำเลียงยาเสพติดหลายครั้ง นำกำลังตำรวจพร้อมประสานข้อมูลกับหน่วยต่างๆเฝ้าติดตาม
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวต่อเนื่องหลายวัน กระทั่งวันที่ 9 ธ.ค. เวลา 03.00 น. พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา แบบมีคอกเหล็กสูง ใช้ผ้าใบปิดคลุมขับมาที่กลางซอยถนนรณชัย ใน ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เชื่อว่าเป็นรถที่ใช้ขนยาเสพติด สกัดกั้นให้หยุดเพื่อตรวจค้น พบของกลางทั้งหมดอยู่ในกระสอบถูกอำพรางด้วยสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค ผลิตและนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ขนม เครื่องดื่มชูกำลัง เส้นบะหมี่จำนวนมากวางทับไว้ตบตาแต่ไม่สำเร็จ
สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ทำงานประจำที่โรงงานแห่งหนึ่งย่านนวนคร จ.ปทุมธานี ได้เงินเดือน เดือนละ 17,000 บาท ต่อมามีคนมาชวนให้ขับรถยนต์ไปขนลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางตามจุดนัดหมายแล้วนำมาพักเก็บไว้ที่โกดังใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000-30,000 บาท อ้างเป็นรายได้เสริม และเมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ยังรับว่าได้ร่วมกับกลุ่มคนในเครือข่ายยาเสพติดไปร่วมทริป “น้ำไม่อาบ” ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ อีกด้วย เบื้องต้นแจ้งข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมายนำตัวพร้อมของกลางส่ง บช.ปส.ขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องดําเนินคดีต่อไป