เรียกเสียงหัวเราะตลอดการสัมภาษณ์เลยจริงๆ สำหรับพระเอกหนุ่มหน้าหวาน เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข และ โฟม เบญจมาศ กิตติพิทักษ์กุล แฟนสาวนอกวงการ ที่ล่าสุดเปิดใจหลังเข้าพิธีวิวาห์แบบเรียบง่าย ณ The Reise (เดอะไรซ์) ถ.ประชาชื่น นนทบุรี ถึงเส้นทางรัก 10 ปีที่หวิดเลิกกันเพราะดราม่า แต่สุดท้ายยังจับมือฟันฝ่าจนมาสู่ประตูวิวาห์ แถมงานนี้เจ้าสาวบอกว่าคนต้องอิจฉาเจมส์เพราะได้ของดีของแรร์ด้วย เรียกว่าเป็นเจ้าสาวตัวตึงไม่ตายไมค์ของแทร่
บรรยากาศเมื่อเช้าเป็นยังไงบ้าง?
เจมส์ “เป็นบรรยากาศที่น่ารักครับ ผมกับโฟมตั้งใจไว้ว่าอยากแต่งงานแบบบรรยากาศในสวน อยากใช้เวลากับทุกคน ก็เลยมีจำนวนคนไม่เยอะมาก แต่จริงๆ ก็อยากขอโทษด้วยถ้าไม่ได้เชิญใคร เพราะว่ามันมีความวุ่นวายเล็กน้อย อยากให้เราได้ใช้เวลากับผู้คนจริงๆ ก็เลยกลายเป็นบรรยากาศแบบนั้นออกมา ขอพูดก่อนนะครับ นี่เป็นครั้งแรกที่โฟมสัมภาษณ์นะครับ มีอะไรยังไงก็ลองดูฮะ”
ความรู้สึกของเจ้าสาว?
โฟม “ก็โล่งดีค่ะ มันก็เป็นงานแต่งครั้งแรก เราก็เขินกับทุกคน แล้วพอมันผ่านไปด้วยดีก็รู้สึกโอเค โล่ง ทุกคนแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ค่ะ ใช้เวลาคุยกันมานานค่ะ แต่ว่าเตรียมงานจริงๆ ไม่นานมาก ด้วยจำนวนด้วยการจัดงานมันก็ไม่เยอะ เป็นแบบสบายๆ ค่ะ
โฟมชอบธีมนี้ ถามว่ามีธีมในฝันไหม ไม่เคยมีงานในฝัน ก็แค่อยากให้ดูอบอุ่น ได้เจอทุกคน ได้พูดคุย ไม่ได้อยากได้งานใหญ่โตในโรงแรมเลย คือตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นที่นี่ แต่มาแล้วรู้สึกชอบอบอุ่นด้วยบรรยากาศด้วยต้นไม้ ก็เลยเป็นที่นี่ แล้วก็ชอบความมีสีสันของดอกไม้ ก็เลยมีสีสันนิดนึง”
เจมส์ “เขาชอบอะไรผมชอบหมดครับ (ยิ้ม) ถามว่าชอบอะไรที่สุดผมก็ต้องชอบเขาที่สุดครับ งานเงินไม่สนใจหรอกครับ ชุดสวยครับ แต่เจ้าสาวสวยกว่า”
ความรู้สึกที่ได้เป็นสามีภรรยา?
โฟม “(หัวเราะ) ตอนนี้ก็แปลกๆ แปลกตรงที่ใช้คำนำหน้าสามีภรรยา ก็ยังไม่ชิน แต่ก็เรียกได้ค่ะ ปกติเราจะเรียกพ่อกับแม่ เพราะว่ามีน้องหมา ก็เลยเหมือนแทนตัวเองเป็นแม่เป็นพ่อ ก็เลยเรียกแทนกันไปเลย เราก็ชินแล้ว”
ถามถึงพิธีการตอนเช้า?
เจมส์ “พิธีการตอนเช้ามีแค่สวมแหวนครับ พอสวมแหวนเสร็จก็ไหว้ผู้ใหญ่ นอกจากนั้นก็คือถ่ายรูปคุยเล่นแค่นั้นเลย”
มีตอนกราบด้วย?
เจมส์ “ใช่ครับ”
โฟม “ไม่ แต่ผู้ชายต้องไหว้ตอบเหมือนกันป่ะ คือหนูว่าหวังว่าผู้ชายจะไหว้ให้หนู แต่มันก็ไม่มี (เจมส์หัวเราะ ยกมือไหว้)”
ความรู้สึกของโฟมวันที่เจมส์คุกเข่าขอแต่งงาน เห็นเดินหนีด้วย?
โฟม “คือมันเขิน เหมือนเราบอกเขาว่าไม่ต้องคุกเข่า หยุดๆๆ”
เจมส์ “เขาแจ้งให้ผมทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าเกิดขอแต่งงาน อย่าคุกเข่า อย่าทำ คือไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่เขาเขินมาก อย่าทำแบบนั้น แต่เราคิดว่ามันควรจะมีสักซีนหนึ่งในลักษณะแบบนั้น คุกเข่าขอแต่งงาน แต่ว่าพอคุกเข่าปุ๊บ เขาก็เดินหนีจริงๆ เขาก็บอกว่าอย่าๆ ไม่เอา ลุกเดี๋ยวนี้”
โฟม “เราเขิน แล้วเราก็ไม่ได้คาดหวัง ไม่คิดว่ามันจะเป็นวันนั้น ก็เลยบอกว่าอย่าทำแบบนี้ คือไม่มีเซนส์ค่ะ เพราะว่ามันเลยวันสำคัญที่เราคิดมาหมดแล้ว แล้วก็ไม่คิดว่าจะเป็นตรงนั้น ถ้าเกิดมันมีวันนึงจะขอ อาจจะเป็นที่บ้าน คือเราก็รู้สึกว่ามันก็ดีใจ แล้วก็รู้สึกว่ามันสักที”
เจอกันครั้งแรกเมื่อ 10 ปีมาแล้ว เป็นยังไงบ้าง?
โฟม “เขาก็จีบหนู ตอนเริ่มแรกทำงานด้วยกัน แต่ว่าตอนแรกเจอกันครั้งแรกไม่ค่อยได้คุยมากเท่าไหร่ เพราะว่าหนูทำงานเบื้องหลังโฆษณา เขาเหมือนลูกสาวไง ในยุคนั้นก็มีข่าวว่านางเป็นหรือเปล่า เราก็มองว่าเป็นลูกสาวมาตลอด จนอีกครั้งหนึ่งเจอ เพื่อนก็บอกว่าไม่ใช่ละ ไม่ใช่ลูกสาวแน่นอน
หลังจากนั้นเขาก็ไดเร็กต์มาคุยด้วย สวัสดีครับ ทำอะไรอยู่ ขอไลน์ ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าจีบไหม เพราะว่าเขาก็ดังมาก จำไม่ได้ว่าคุยอะไร แต่ก็จำได้ว่าเป็นเรื่องคุยกันประจำวัน เหมือนเต๊าะ เขาแพรวพราว แต่ว่าก็คีปลุค (เจมส์บอกว่าแพรวพราว ติดทรง) ไม่รู้ว่าเขาทักหลายคนหรือเปล่า”
เจมส์ “วันนี้ผมกำลังคิดอยู่ว่าผมจะเล่าอะไรดี ถ้าเล่าความจริงหมดเลย 10 ปีที่ผ่านมาคือหมดเลยนะ คือตอนนั้นผมเห็นเขาน่ารักดี ผมเป็นคนที่ชอบคนลักษณะบุคลิกนี้ ชอบคนที่ดูแอ็กทีฟ ก็เลยรู้สึกเขาน่ารัก ก็พยายามค้นหาว่าเราจะคุยกับเขาได้ทางไหน”
10 ปีที่ผ่านมา เติมเต็มกันยังไงบ้าง?
โฟม “เติมเต็มบ้างไม่เต็มบ้าง”
ที่ผ่านมาเราเจออะไรกันมาเยอะ จับมือสู้กันมายังไงบ้างที่ให้มันมาถึงวันนี้?
โฟม “แรกๆ อาจจะไม่ชิน แต่ว่าหลังๆ มาพอมันชินก็ช่างมันเถอะ ก็ละในสิ่งที่ไม่จรรโลงใจค่ะ ถามว่าเสียใจไหม ก็เสียใจ มันก็เคยเสียใจจนอยากเลิก แต่เขาก็จะไม่ยอมเลิก”
เจมส์ “คือมันมีช่วงหนึ่งที่เขาเจอข่าวลบมากๆ คือเขาไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง แล้วการดีลกับคอมเมนต์ กระแสต่างๆ มันหนัก คือไม่ใช่แค่ตัวเขา คนรอบข้าง ครอบครัว มันเป็นช่วงที่หนักมากๆ สำหรับเขา คือเขาเคยเล่านอนร้องห่มร้องไห้หลายวัน จนเราคุยกัน เขาบอกว่าหรือเราจะเลิกกันดี คือเขาเข้าใจในหน้าที่การงานและกระแสที่เกิดขึ้น แต่เขารู้สึกว่ามันอาจจะหนักเกินไป แต่ว่าผมก็บอกเขาว่า…”
โฟม “เขาก็บอกว่าที่เรามีปัญหานี้เป็นเพราะคนอื่น เราจะไม่เลิกกันเพราะคนอื่น ถ้าเราจะเลิกกัน เราต้องเลิกกันในแบบที่เราไม่รักกัน หล่อเฉยเลย (ยิ้ม) ก็มีอยากปล่อยมือบ้างไม่ปล่อยมือบ้าง บางทีอยากจะปล่อย แต่พอเขาบอกมาทีก็จับต่อก็ได้ (หัวเราะ)
เขาเป็นคนใจเย็นมาก พอมันใจเย็นก็เลยทำให้เรื่องต่างๆ เบาลง แก้ปัญหา แล้วทิ้งบ้างกับปัญหา ไม่ได้แก้ตลอด เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากๆ ไม่เคยคิดลบกับใครเลย เวลารู้สึกไม่ดีแล้วคุยกับเขาทำให้รู้สึกสบายใจ รู้ว่าเขาใส่ใจเราทุกอย่างเลย
เขาดีมาตลอด คือจริงๆ แล้ว เจมส์เป็นคนที่เริ่มจาก 0 ไป 100 แล้วก็ติดลบ แล้วก็เพิ่มไปตลอด โดยที่คะแนนเขาไม่ลงเลย ใครถามเขาก็บอกว่าผมพลาดครับ (หัวเราะ) เราก็ได้ยินมาตลอด”
เจมส์ “ผมพูดติดตลก คือผมว่าในเรื่องของความรักความสัมพันธ์ ด้วยระยะเวลามันก็มีประมาณนึงเหมือนทุกๆ คู่ คบกันไปทะเลาะกันไปจะเลิก แต่ว่าเราไม่พูดถึงความรักความสัมพันธ์ คือเขาจะเป็นคนที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง เขาเป็นคนที่ไม่ได้หวาน แล้วก็เป็นคนที่ช็อตๆ แบบนี้แบบที่ทุกคนเห็น
แล้วผมว่าปฏิกิริยาแบบนี้มันก็ทำให้เรามีแรงผลักดันในการทำนู่นทำนี่ต่อไป ทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น แต่ผมรู้นะว่าสิ่งที่เขาพูดเขามีเจตนาดีตลอด แต่ว่าเขาเป็นคนชอบช็อต ก็เลยรู้สึกว่าเขาก็เหมือนกับเป็นสีสันที่มาเติมให้เราเต็มได้ จากคนที่คิดเยอะ พอเขามาเติมเต็มผมก็คิดว่ามันกลมกล่อมดี”
ในชีวิตคู่การดูแลในใจใส่เป็นยังไงบ้าง?
เจมส์ “เขาทำได้หมด อาหาร ขนม ผมไปต่างประเทศเขาจัดของให้หมด คือผมไม่ต้องยุ่ง ผมไปเซอร์ไพรส์หน้างานว่าในกระเป๋าผมมีอะไรอยู่ในนั้น เขาก็จะคอยดูแลให้ได้ทุกอย่าง เขาเป็นคนละเอียดอ่อน”
โฟม “ไม่หรอก เขาจัดเสื้อผ้าไม่ดี”
แต่งงานแล้วโฟมเป็นแม่บ้านเต็มตัวไหม?
โฟม “ยังอยากทำงานอยู่ค่ะ เพราะว่าตอนนี้ก็ยังทำอยู่ และรู้สึกว่ามันก็ทำไปได้ทั้งคู่ ยังไม่รู้สึกว่าลำบากอะไร ตอนนี้มีร้านอาหาร อยู่นาคนิวาส 43 ค่ะ เปิดทุกวันไม่ปิดเลยค่ะ”
เรื่องทายาทวางแผนยังไงบ้าง?
โฟม “แพลนมาตลอด หมายถึงว่าพูดเรื่องวางแผนชีวิตมาตลอด แต่ว่าพอมันมาถึงตอนนี้เราก็ยังอยากเที่ยวอยู่ก็เลย ยังไม่แน่ใจ อยากมีเร็วแหละ แต่ยังไม่มั่นใจว่าเร็วคือเร็วแค่ไหน เพราะว่าเรายังอยากเที่ยว เอาจริงๆ ตั้งแต่คบเจมส์มาเที่ยวน้อย หมายถึงว่าไปเที่ยวด้วยกันน้อยค่ะ”
เจมส์ “คือเราคุยกันเรื่องมีลูกก่อนที่จะคุยกันเรื่องการแต่งงาน หมายถึงว่าแพลนว่าเราจะมีกันในช่วงวัยไหน คือเรื่องการแต่งงานเลยถูกทำตามในเรื่องการมีลูก แต่งานแต่งมันถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ จนถึงวันนี้เรื่องการมีลูกก็เลยยังตกลงไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ เพราะมันถูกเลื่อนมาโดยตลอด”
โฟม “เขาเป็นคนวางแผนเก่ง แต่ไม่ค่อยเริ่ม จริงๆ แพลนอยากมีตั้งแต่ปีที่แล้ว หรือปีนี้ไหม แต่พอปีนี้ก็อยากจะเที่ยวอีกสักนิดไหม มันก็เลยยังไม่มีที่ชัดเจนค่ะ แต่ก็อยากมีไม่ช้ามากค่ะ ถ้าอยากมีก็อยากมี 2 คนให้มีเป็นพี่เป็นน้องกับ โฟมก็ฝากไข่ไว้แล้ว คือไปตรวจร่างกาย ค่าฮอร์โมนเราไม่ปกติ ก็ฝากไข่ไว้ก่อน”
ความเป็นพ่อเป็นแม่พร้อมไหม?
โฟม “ไม่รู้ว่าถ้ามีจริงๆ เราจะพร้อมแค่ไหน แต่ว่าเราซ้อมเลี้ยงหมาหลายตัวก็น่าจะพร้อม”
เจมส์ “ผมพร้อมให้เขาเสมอ”
งานฉลองต่อจากนี้ ยังมีปาร์ตี้อะไรอีกไหม?
โฟม “จะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ หนูว่าเล็กกว่านี้ หมายถึงจำนวนคนจะน้อยกว่านี้ คิดว่าในช่วงเดือนหน้า ม.ค. เรื่องเที่ยวคือวางแผนมาตั้งแต่ต้นปี ว่าเราจะไปที่นั่นที่นี่ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเลยค่ะ”
เจมส์ “ตอนนี้ ม.ค.-ก.พ. ยังเต็มอยู่ครับ ก็เลยขยับตัวยากนิดนึง”
เรื่องจดทะเบียนสมรส?
เจมส์ “มีวางไว้ครับ”
โฟม “แต่ยังไม่กำหนดเดือนชัดเจนค่ะ ถามว่าจะเปลี่ยนเป็นนางไหม ไม่ค่ะ หนูอยากเป็นนางสาว ค่อยว่ากันค่ะ”
งานในวงการยังรันอยู่ใช่ไหม?
เจมส์ “ยังเต็มที่ ยังทำต่อไปยาวๆ ผมว่ามันก็เป็นพาร์ตหนึ่งที่สำคัญมากๆ ของชีวิตครอบครัว พอเราทำอะไรแบบนี้ ผมรู้สึกว่ามันก็ก้าวข้ามอะไรบางอย่างไป งานในวงการบันเทิงมันอาจจะหลากหลายมิติขึ้นด้วย ผมว่ามันอาจจะดูสนุกมากกว่าอยู่ในเซฟโซนตลอดเหมือน 10 ปีอย่างที่ทุกคนเห็นมา มันก็เป็นการเติบโตที่ดี”
มีโอกาสจะมีงานคู่กันไหม?
โฟม “ถ้าจ้างก็ไปนะคะ ก็ชีวิตเราดำเนินด้วยเงินน่ะ (หัวเราะ)”
อยากบอกอะไรกัน?
เจมส์ “(จับมือโฟม) ก็อยากจะบอกเขาว่ารักมากๆ พยายามทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น ก็รักครับ ไม่รู้จะพูดอะไร”
โฟม “ไม่มีเลยค่ะ จะทำตัวให้น่ารักก็คือเขาก็รักเราที่เราเป็นแบบนี้ เราจะเปลี่ยนตัวเองทำไม ไม่มีเลยค่ะ”
เรื่องสินสอดหลายคนอยากรู้ ระดับเจมส์จิขอสาวแต่งงาน?
โฟม “ไม่มีค่ะ หมายถึงว่าเราไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ที่บ้านไม่ได้ขอ เราคุยกันว่ามันไม่จำเป็น เอาทั้งหมดที่เขาเก็บไปไว้สร้างครอบครัวในอนาคต เพราะอย่างที่บอกว่าเราคุยกันเรื่องลูกเป็นหลัก ถ้ามีลูกก็ต้องใช้เงินเยอะ สุดท้ายเราก็ต้องเอาไปให้ลูกอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย”
แต่คนก็โฟกัสแหวนนะ?
โฟม “อันนี้ก็โอเค (ยิ้ม) คือหนูอ่ะไม่รู้เรื่องราคา แต่ว่าที่ร้านบอกว่า เขาป๋ามาก เขาใจสู้ค่ะ แค่นี้ก็จบแล้วค่ะ”
เจมส์ “พอเขาชูขึ้นมาผมน้ำตาไหลเลย เสียดายตังค์ (หัวเราะ) เอาความจริงแล้วเขาบอกว่าไม่ต้องจัดงานแต่งงานก็ได้ เขาก็เป็นห่วงว่าถ้าเกิดมันจะกระทบงาน แต่เขาขออย่างเดียวคือขอแหวน เพราะเขาชอบ เราก็พากันไปดู เลือกที่เขาชอบที่สุด อันนี้เขาเลือกเอง เพราะผมเคยมีประสบการณ์แล้ว เลือกของขวัญให้ เขาไม่ได้เลย”
โฟม “เทสต์ไม่ดี เทสต์ไม่ได้ แต่ก็รัก (ยิ้ม) ไม่เป็นไร เดี๋ยวหนูช่วยดู เลือกเองก็จบ จ่ายอย่างเดียว แลกแหวนไม่มีค่ะ มีแค่ให้ของขวัญนิดหน่อย แค่วงแรกที่เขาซื้อให้ก็ใส่ไม่ได้แล้ว ผิดไซส์ (ยิ้ม) สวมปุ๊บก็ติดข้อนิ้วแล้ว”
หลายคนอิจฉาโฟม?
โฟม “ไม่ ต้องอิจฉาเจมส์ที่มีแฟนเป็นหนู (ยิ้ม) เขาได้ของดีของแรร์นะ”
อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ เจมส์ไหม?
โฟม “เดี๋ยวดูแลให้นะคะ (ยิ้มและโชว์แหวน ลูบไหล่เจมส์)”
เจมส์ “อันดับแรกขอบคุณทุกคนนะครับที่มาในวันนี้ ผมว่าในวันนี้ที่เราเห็นคอมเมนต์ที่ทุกคนรักและเอ็นดูคู่เรา จริงๆ สำคัญพอสมควรนะ เพราะด้วยสิ่งที่เราเคยผ่านมา พอวันนี้มันมีกำลังใจ มันก็เป็นนิมิตหมายที่ดี มันเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ในการที่เราใช้ชีวิตคู่ของเราต่อไปในอนาคตครับ”
โฟม “จริงๆ ขอบคุณพี่ๆ นักข่าว แฟนคลับเจมส์ อย่างที่บอกว่ากว่าที่จะถึงวันนี้ เราก็ไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่าเราจะมีวันนี้ ในการคบกันเราแทบจะไม่ได้พูดถึงอนาคตอันยาวไกลจนถึงวันแต่งงานแล้วด้วยซ้ำ เพราะเราคิดว่ามันไม่รอดหรอก เดี๋ยวก็เลิกกัน แต่พอทุกอย่างมันผ่านไป คนรอบข้างหรือแม้กระทั่งแฟนคลับที่เหมือนจำนวนเยอะขึ้นมากๆ ที่ยอมรับในตัวเรา เราก็ต้องขอบคุณเขาที่ให้โอกาสเราได้เป็นตัวของตัวเองในแบบที่เขารักเราค่ะ
จริงๆ ก็เขิน ไม่ชิน แต่เราดีใจ มันไม่มีเคยมี เขาเดินเข้ามาก็ยอมรับเรามากขึ้นแล้วแหละ ก็ดีใจค่ะ ดีใจกับเขาด้วย เพราะอยากให้เขาสบายใจในเรื่องของเรามากขึ้น (ตอนนี้สบายใจกับทุกอย่าง?) คนรอบตัวสบายใจหมด เหลือเนี่ยเดี๋ยวดูไปก่อน (แตะที่ตัวเจมส์)”
เจมส์ “ท้อว่ะ เป็นการสัมภาษณ์ที่ท้อมากในวันนี้ (ยิ้ม)”