สงขลา พ่อค้ายอมรับผิด ขอโทษสังคมชูนิ้วกลางใส่คนขับรถเทรลเลอร์ อ้างบันดาลโทสะ คู่กรณีบีบแตรลากยาวเสียงดังลั่น แสบแก้วหู แค่ยกของใส่ท้ายรถไม่นาน น่าจะรอได้ ด้าน ผกก.สภ.ทุ่งลุง สั่งเรียกทั้งสองฝ่ายเข้าพบ เปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ยันปกติจุดเกิดเหตุจะมีตำรวจกวดขันวินัยจราจร
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีคลิปเหตุการณ์คนขับรถเทรลเลอร์ได้บีบแตรยาวไล่รถยนต์เก๋งคันสีแดง ซึ่งชายเสื้อเหลืองกำลังเอาของขึ้นท้ายรถ ก่อนที่ชายเสื้อเหลืองคนดังกล่าวจะชูนิ้วกลางใส่คนขับรถเทรลเลอร์ จากนั้นก็เกิดการชกต่อยกันขึ้น กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจออกตรวจและเจอเหตุการณ์พอดี ก่อนจะเข้าไปห้ามทั้ง 2 ฝ่าย ยุติการชกต่อย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณตลาดสดบ้านพรุ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ติดกับถนนกาญจนวานิช เป็นถนนเส้นหลักมี 2 เลน มุ่งหน้าไปประเทศมาเลเซียและมีรถบรรทุกหลากชนิด พร้อมกับรถชาวบ้านวิ่งผ่านไปมาจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ที่คนขับรถเทรลเลอร์ชกต่อยกับคนขับรถยนต์
จากการสอบถาม พ่อค้าผัก ได้เล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น คนขับรถเทรลเลอร์ได้มีเรื่องชกต่อยกับพ่อค้าขายข้าวกล่อง ซึ่งคนขับรถเทรลเลอร์ได้บีบแตรลากยาวและเสียงดังมาแต่ไกลใส่รถยนต์ของพ่อค้าขายข้าวกล่อง เนื่องจากท้ายรถยนต์ได้ล้ำออกไปถนน ทำให้รถเทรลเลอร์ไม่สามารถผ่านไปได้ จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันเสียงดังและมาเห็นอีกทีเห็นชกต่อยกันแล้ว ตอนนั้นก็ไม่มีใครห้ามนะ แล้วจู่ๆ ตำรวจก็เข้ามาห้ามทันที ซึ่งตอนแรกรถยนต์คันสีดำมาจอดก่อนแล้วคนขับก็วิ่งไปแลกเหรียญในมินิมาร์ท คนขับรถเทรลเลอร์ก็บีบแตรใส่รถยนต์คันดำก่อนคนขับรถยนต์คันดำขับออกไปแล้วรถยนต์ของพ่อค้าขายข้าวกล่องก็ขับเข้ามาเบียดจอดแทนคันดำทันที คนขับรถเทรลเลอร์ก็บีบแตรไล่ยาวอีก ทีนี้ก็ชกต่อยกันเลย
“จริงๆ รถยนต์คันแดงที่มาจอดนั้น เพราะกำลังเอาของขึ้นท้ายรถยนต์แล้วก็ไม่รู้ตอนนั้น มีการท้าทายกันไหมเลยชกต่อยกัน ตามหลักแล้วตรงนี้เค้าไม่ให้จอดอยู่แล้ว คนขับรถยนต์ก็น่าจะวนไปกลับรถมาอีกรอบก็ได้แล้วให้รถเทรลเลอร์ขับออกไปก่อนแล้วค่อยขับมาจอด ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามความคิดตน ถ้าคนขับรถเทรลเลอร์ใจเย็นสักนิด เรื่องก็คงไม่เกิด แต่นี้มีการท้าทายกันต่างคนต่างไม่ยอม”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เจอกับ นายเอกณัฏฐ์ อายุ 50 ปี พ่อค้าที่ชูนิ้วกลางใส่คนขับรถเทรลเลอร์ ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดใจ ยอมรับความผิด และขอโทษสังคม ที่ชูนิ้วกลาง แต่ทำลงไปเพราะบันดาลโทสะเนื่องจากคนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์ บีบแตรลากยาวจนเสียงดังลั่น และแสบแก้วหู อีกทั้งตนยกของใส่ท้ายรถไม่นาน ก็น่าจะรอได้ ไม่ควรที่จะบีบแตรลากยาวแบบนี้
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายเอกณัฏฐ์ พร้อมด้วยภรรยา ได้เดินทางมาที่ สภ.ทุ่งลุง เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.วีระศักดิ์ เดชประมวลผล ผกก.สภ.ทุ่งลุง หลังเกิดเหตุการณ์ และมีการเชิญตัวมาดำเนินมาสอบปากคำพร้อมกับเปรียบเทียบปรับ
ทางด้าน พ.ต.อ.วีระศักดิ์ เดชประมวลผล ผกก.สภ.ทุ่งลุง เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเรียกทั้งสองฝ่ายมาตรวจสอบ ว่าฝ่ายไหนมีความผิดอย่างไร ซึ่งตอนนี้ทางคนขับรถยนต์คันสีแดงได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจแล้ว มาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งเบื้องต้น ได้แจ้งความผิดกับทางคนขับรถยนต์เก๋งในเรื่องของการจอดรถซ้อนคันแล้วก็เรื่องทะเลาะวิวาทและได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว
ส่วนคนขับรถเทรลเลอร์ เพิ่งทราบข่าวว่ากำลังส่งของอยู่ที่อำเภอสะเดา และในช่วงเย็นก็จะเข้ามา ก็จะดำเนินการตรวจสอบว่ารถบรรทุกมีความผิดอย่างไรบ้าง เช่น แตรรถ ใช้แตรลมที่ผิดกฎหมายหรือไม่ และเรื่องทะเลาะวิวาท ถ้าหากเค้าผิดทางตำรวจก็จะดำเนินการตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามก็จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนตรงที่เกิดเหตุนั้น โดยปกติจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกวดขันวินัยจราจรอยู่ เพราะตรงนั้นเป็นเขตชุมชนและเป็นเขตตลาด ซึ่งมีรถค่อนข้างพลุกพล่าน อีกทั้งเป็นถนนเส้นหลัก มีรถบรรทุกสินค้าจะนำสินค้าไปส่งยังประเทศมาเลเซียเยอะ จึงไม่สมควรที่จะจอดรถซ้อนคัน.