พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุ “ซิงซิง” เป็นผู้เสียหายขบวนการค้ามนุษย์ รอส่งกลับประเทศ หากเจ้าตัวพร้อม 1-2 วันนี้ พร้อมเผยสภาพจิตใจปกติดี เจ้าตัวอยากกลับบ้าน แต่จะมาเที่ยวไทยอีก
วันที่ 8 ม.ค. 68 จากกรณีสื่อโซเชียลนำเสนอข่าว “ซิงซิง” หรือ นายหวัง ซิง อายุ 31 ปี นักแสดงซีรีส์ตัวประกอบชาวจีนหายตัวปริศนา และแฟนสาวดาราหนุ่มจีน โพสต์ข้อความอ้างว่าแฟนหนุ่มเดินทางจากสนามบินผู่ตง เซี่ยงไฮ้ มาถ่ายทำงานในประเทศไทย มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา ตี 4 วันที่ 3 ม.ค. จากนั้นขึ้นรถตู้ทีมงาน และขาดการติดต่อไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมแจ้งความกับตำรวจเซี่ยงไฮ้และสถานทูตจีนในประเทศไทยแล้ว คาดอาจถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักพาตัวไปกักขังในฝั่งเมียนมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นสรุปแล้วว่า ซิงซิงตกเป็นผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งหลักฐานดูจากข้อมูลต่าง ๆ ในโทรศัพท์ประกอบกันตามหลักการของกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM พบว่า มีพฤติกรรมถูกหลอกให้มาแคสติ้งงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่พอข้ามไปแล้วกลับตัองไปทำอาชีพอื่นแทน
ส่วนข้อสงสัยที่หลายคนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เดินทางเข้ามา จะเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น ในเรื่องการสืบสวนทางคดีได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 6 และตำรวจไซเบอร์เร่งขยายผล เป็นข้อสังเกตและข้อสืบสวนในการดำเนินคดี ซึ่งต้องมีการขยายผลต่อเนื่องว่าการเข้ามาในไทยเข้ามากับบุคคลใด ใครเป็นคนพาเข้ามา รวมถึงการติดต่อสื่อสารและการประสานงาน ซึ่งต้องมีกระบวนการในการสืบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผล
ส่วน NRM เป็นเรื่องที่ต้องทำตามกระบวนการทางกฎหมาย เมื่อทีมสหวิชาชีพพิจารณาแล้วมีข้อบ่งชี้ว่าตกเป็นผู้เสียหาย ก็ต้องดำเนินการตามข้อกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ เมื่อซิงซิงและญาติพร้อม ก็จะประสานสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย มารับตัวเพื่อเดินทางกลับประเทศจีนได้ คาดว่าไม่เกิน 1-2 วันนี้
ขณะที่ความเป็นอยู่ของซิงซิงเมื่อคืนนี้ พบว่าสภาพจิตใจดี ซิงซิงก็อยากกลับบ้าน ไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ไม่มีข้อกังวลเกี่ยวกับประเทศไทย และบอกว่าหลังจากนี้จะเดินทางกลับมาเที่ยวอีก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงประเด็นดราม่าว่าที่ให้การช่วยเหลือไว เพราะเป็นดาราหรือไม่นั้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ใช้มาตรฐานเดียวกันทุกเคส แต่ที่เคสนี้ติดตามได้รวดเร็ว เพราะทางผู้เสียหายมีการส่งข้อมูลให้ญาติก่อนที่จะออกเดินทาง ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยได้ทันที