กรมบัญชีกลาง พร้อมแล้วที่จะโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ตามที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ จำนวน 14.55 ล้านคน คนละ 10,000 บาท วงเงินรวม 145,552 ล้านบาท เริ่มโอน 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-30 ก.ย.นี้ เข้าบัญชีพร้อมเพย์ และบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงเหตุผลของการเลื่อนการประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันนี้ ว่า เนื่องจากมีหลายคนติดภารกิจ จึงเลื่อนออกไปก่อน แต่ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ จะมีการจ่ายเงิน 10,000 บาท สำหรับกลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้พิการอย่างแน่นอน วิธีตรวจสอบสิทธิ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ
เปิดแอปฯ ทางรัฐ เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ
ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้ท่านกดปุ่มยืนยันข้อมูล
กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ
จากนั้นกดปุ่มอนุญาต ให้แอปพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ระบบจะแสดงผลว่า สถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต
สถานะอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ
สถานะอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือท่านไม่ได้รับสิทธิ
สถานะอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือท่านได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต
ใครถูกตัดสิทธิเงิน 10,000 บาท รอบแรก
กลุ่มคนที่ถูกตัดสิทธิเงิน 10,000 บาท รอบแรก ได้แก่ คนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ และคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ อย่าลืมต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ และตรวจสอบบัญชีธนาคารเพื่อรับเบี้ยความพิการ เพื่อไม่ให้พลาดรับเงินจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ
สำหรับผู้พิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ หรือ บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ สามารถขึ้นทะเบียนทำบัตร หรือ ต่ออายุบัตรผู้พิการให้เรียบร้อยก่อนภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เพื่อขอรับบัตรสิทธิตามโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท