เมื่อวันศุกร์ (11 ต.ค.) กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ กล่าวหาเกาหลีใต้ว่าส่งโดรนเข้าไปในกรุงเปียงยางในช่วงกลางคืนของสัปดาห์นี้และสัปดาห์ที่แล้ว และการบุกรุกดังกล่าวจำเป็นต้องมีการตอบโต้ อย่างไรก็ตาม คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้กล่าวว่าไม่สามารถยืนยันข้อกล่าวหาของเกาหลีเหนือได้

แถลงการณ์ของคิม โย จอง มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนืออ้างว่าพบโดรนของเกาหลีใต้ที่บรรจุแผ่นพับโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านเกาหลีเหนือในท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือกรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม และวันพุธและพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่ผ่านมา

กระทรวงฯ กล่าวว่า กองกำลังเกาหลีเหนือจะเตรียมทุกวิถีทางในการโจมตี ที่สามารถทำลายพรมแดนด้านใต้และกองทัพเกาหลีใต้ และตอบโต้โดยไม่แจ้งเตือน หากตรวจพบโดรนของเกาหลีใต้ในดินแดนของตนอีกครั้ง ในตอนแรก รัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีใต้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ต่อมากองทัพเกาหลีใต้ได้แก้ไขคำตอบ โดยระบุว่าไม่สามารถยืนยันได้ว่าคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือเป็นความจริงหรือไม่

คิม โย จอง อ้างถึงใบปลิวต่อต้านเกาหลีเหนือว่า “ความจริงก็คือการใช้โดรนเพื่อโปรยใบปลิว คือแก่นของความร้ายแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด” คิมกล่าวว่า หากไม่สามารถระบุได้ว่าโดรนดังกล่าวถูกส่งโดยองค์กรนอกภาครัฐ ก็ถือว่าเป็นความผิดของกองทัพเกาหลีใต้

คิมยังกล่าวว่า “หากกองทัพนิ่งเฉยในขณะที่พลเมืองของตนเองใช้โดรน ซึ่งเป็นเครื่องมือทางทหาร เพื่อละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศอื่น จึงเพิ่มความเสี่ยงของการสู้รบด้วยอาวุธกับฝ่ายตรงข้ามที่อาจเกิดขึ้น นั่นเท่ากับเป็นการยินยอมพร้อมใจและสมคบคิดกันโดยเจตนา ทันทีที่พบโดรนของเกาหลีใต้อีกครั้งในท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงของเรา ภัยพิบัติร้ายแรงจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ฉันหวังเป็นการส่วนตัวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น”

เกาหลีเหนือปล่อยลูกโป่งหลายพันลูกพร้อมขยะลอยไปในเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้น

เกาหลีเหนือระบุว่าการกระทำดังกล่าว เพื่อเป็นการตอบโต้กลุ่มนักเคลื่อนไหวและผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือในเกาหลีใต้ที่ปล่อยลูกโป่งลอยไปในเกาหลีเหนือพร้อมห่อพัสดุและใบปลิวเพื่อวิจารณ์นายคิม จองอึน.