จะว่าไปเหรียญทอง 1 เดียวของทัพนักกีฬาไทย จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดไทย ในโอลิมปิกครั้งนี้คงจะเป็นเพียง หนึ่งในเส้นทางของ ยอดโค้ชจากแดนกิมจิ ชัชชัย เช ผู้ฝึกสอน “ชาวไทย” ก่อนจะเดินหน้าต่อไปสำหรับเหรียญต่อๆไป

“โค้ชเช” เข้ามาเริ่มงานกับทีมชาติไทย เมื่อ 1 ก.ย. 2002 หรือเมื่อ 22 ปีก่อน สร้างนักกีฬาไทยจากการต้องเอา “นักมวยไทย” มาเล่นเทควันโดในช่วงต้นๆ จนสร้างนักกีฬาเทควันโดขนาดแท้ขึ้นมา และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน โค้ชเช ปรับตัวกับกฎกติกาใหม่ ให้ ผลงานของนักกีฬาไทยเกาะกลุ่มผู้นำอยู่ตลอด
ถ้าว่ากันรายกีฬาแล้วนับเฉพาะมหกรรมกีฬา ยังไม่นับรวม เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ที่ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ไปโกยมาต่อเนื่อง

หากไล่เรียงตั้งแต่ โค้ชเช เข้ามาทำงาน เวลานี้ผลิตเหรียญเข้าสมาคมกีฬาเทควันโด มาแล้ว 83 เหรียญทอง 59 เหรียญทอง 73 เหรียญทองแดง จากซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, โอลิมปิก, ยูธโอลิมปิก, ยูธ เอเชียนเกมส์ และ แชมป์ทวีป-ชิงแชมป์โลก รวม 47 รายการ

ซีเกมส์ เทควันโดในยุค โค้ชเช คว้ามาทั้งสิ้น 57 เหรียญทอง 25 เหรียญเงิน 22 เหรียญทองแดง/ เอเชียนเกมส์ 6 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 13 เหรียญทองแดง

ยูธ เอเชียนเกมส์ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน

เทควันโดชิงแชมป์เอเชีย ได้มาแล้ว 8 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน 20 เหรียญทองแดง, ชิงแชมป์โลกได้มา 6 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 15 เหรียญทองแดง เป็นแชมป์แชมป์โลกแล้ว 5 คนคือ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ 2 สมัย, พรรณนภา หาญสุจินต์, ชนาธิป ซ้อนขำ, รังสิยา นิสัยสม และ ชัชวาล ขาวละออ

ยูธโอลิมปิกเกมส์ 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ที่ครองแชมป์ 3 หนติด นับตั้งแต่ วรวงศ์ พงษ์พาณิช, พาณิภัค และ กานต์ธิดา แสงสิน

และล่าสุดกับ โอลิมปิกเกมส์ 2 เหรียญทอง จากพาณิภัค 2020-2024 , 2 เหรียญเงิน เทวินทร์ หาญปราบ 2016, บุตรี เผือดผ่อง 2008, 3 เหรียญทองแดง ชนาธิป ซ้อนขำ 2012, พาณิภัค 2016 และ เยาวภา บุรพลชัย 2004

และแน่นอนตัวเลขจะวิ่งต่อไปเรื่อยๆ สำหรับ โค้ชเช ชัชชัย โค้ชชาวไทย คนนี้