ล่าสุด เวลา 13.30 น.วันที่ 2 ธันวาคม 2567ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ร้านค้าดังกล่าว ชื่อร้านเทียนทอง ตั้งอยู่ในบ้านโนนทอง หมู่ 5 ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น โดยพบกับ นางฐิติภา ภูสี อายุ 46 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (1ธ.ค.2567) ขณะที่ตนขายของอยู่ที่ร้านตามปกติ ก็มีลูกค้าเข้ามาซื้อของหลายคน และมีพระสงฆ์เข้ามาซื้อของ ซึ่งก่อนที่พระรูปดังกล่าวจะบวชนั้น ก็เป็นลูกค้าที่ร้านและมาซื้อของบ่อย โดยจ่ายเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากที่พระเลือกซื้อสินค้าเสร็จ ก็ถึงขั้นตอนที่จ่ายเงิน ปรากฏว่าไม่สามารถสแกนใบหน้าได้ เนื่องจากใบหน้าไม่ตรงกัน โดยตนได้ลองพยายามสแกนให้ผ่านให้ได้ แต่ก็ไม่ได้จนคิดว่าจะให้พระกลับวัดก่อนแล้วค่อยมาทำการสแกนจ่ายเงินใหม่ภายหลัง

ตนก็ไม่ละความพยายามจึงคิดเอาเทปพันสายไฟสีดำตัดแปะที่คิ้ว ลักษณะเหมือนคิ้วชินจัง แต่ลูกค้าผู้ชายในร้านที่มาซื้อของบอกว่าให้ตัดเป็นรูปทรงคิ้วดีดี ก่อนที่ลูกค้าจะตัดแล้วนำมาแปะที่คิ้วของพระหลอด ปรากฏว่าสแกนหน้าผ่านทันที จนตนเองหลุดขำออกมา จึงนำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ใน Facebook กระทั่งกลายเป็นกระแส ซึ่งส่วนตัวก็กังวลว่าจะทำให้พระเดือดร้อนหรือไม่ แต่พระสงฆ์ก็มาซื้อแต่ของที่ใช้ในกิจของสงฆ์เท่านั้น และตนเองเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้การสแกนใบหน้าผ่าน

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับพระสงฆ์ในคลิป ที่วัดบ้านโนนทอง เผยกับ ผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเช้าวานนี้ได้มาซื้อของใช้ในกิจของสงฆ์ที่ร้านค้าใกล้วัด ปกติตอนที่เป็นฆราวาสก็จะมาซื้อของที่ร้านนี้เป็นประจำ กระทั่งได้มาบวชที่วัดแห่งนี้เมื่อไม่นานมานี้ ก็กลับมาซื้อของที่ร้านนี้อีกครั้ง หลังจากเลือกของเสร็จตอนที่จ่ายเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ปรากฏว่าสแกนหน้าไม่ผ่านสักที ทั้งเปลี่ยนมุมถ่ายทั้งกระพริบตา จนเจ้าของร้านปวดแขน จนในใจคิดว่าจะกลับวัดก่อนดีกว่า กระทั่งโยมที่มาซื้อของได้แนะนำว่าลองติดเทปสีดำ ให้เป็นคิ้วดู จึงได้ลองทำปรากฏว่าได้ทันที จึงได้มีการคุยกับเจ้าของร้านและญาติโยมที่มาซื้อของในร้านว่าเป็นกับคิ้วจริงๆ ด้วย ก่อนจะกลับมาที่วัดกระทั่งมาทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ว่าได้ออกข่าวหลังจากที่ใช้วิธีการติดเทปดำที่คิ้วแล้วสแกนใบหน้าผ่าน ทำให้ตอนนี้เกิดความกังวลว่าจะถูกตำหนิติเตียนหรือไม่ แต่ก็ยอมรับในผลที่จะเกิดขึ้น.