ช็อกหนัก หนุ่มใช้วุฒิ ปวส. สอบบรรจุได้ ที่แท้ “วุฒิปลอม” ต้องออกจากราชการ

Author:

หนุ่มเรียนจบ ปวส. “วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ศูนย์รังสิต” นำวุฒิไปสอบบรรจุได้ แต่ไม่มีชื่อเป็นผู้จบการศึกษาในสารบบของกระทรวงศึกษาฯ ตามไปถามผู้บริหารวิทยาลัยที่ขอนแก่น ได้รับคำยืนยันเป็น “วุฒิการศึกษาปลอม” เพราะไม่มีการเปิดศูนย์สอนที่รังสิต เจ้าตัวเผยอนาคตดับวูบ ต้องถูกให้ออกจากงาน เดินหน้าฟ้องเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้อง

เวลา 09.00 น. วันที่ 15 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้ากรณีที่ นายสายชล แสนคำ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.1 ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่งนายช่างตรวจสภาพรถ ที่กรมการขนส่งทางบก เดินทางมาที่ จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาที่วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ตั้งอยู่เลขที่ 513 หมู่ที่ 9 ถนนสร้อยศรีอุทิศ ตำบลบ้านกง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น เนื่องจาก นายสายชล ได้เรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2557 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ ของวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ที่ศูนย์รังสิต ตั้งแต่ปี 2560 และจบการศึกษา 30 มีนาคม 2562 และใช้วุฒิการศึกษายื่นประกอบเอกสารการเข้าบรรจุรับราชการที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ส่งวุฒิการศึกษาตรวจสอบที่ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่พบชื่อของนายสายชล กรมการขนส่งทางบกจึงให้ นายสายชล ตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ศูนย์รังสิต ซึ่งได้คำตอบว่ารายชื่อตกหล่นขณะส่งให้กระทรวงศึกษาธิการ จะประสานกับทางผู้อำนวยการและผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ที่จังหวัดขอนแก่น และขอให้นายสายชลลงทะเบียนเรียนใหม่ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นวิทยาลัยจะเสื่อมเสียชื่อเสียง นายสายชลจึงเดินทางมาจังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง

นายสายชล แสนคำ พร้อมญาติจึงได้เดินทางไปที่วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ได้พบกับ ดร.อิทธิ สีวันนู ผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัย ที่ห้องทำงานของผู้รับใบอนุญาต โดยได้ยื่นเอกสารที่เป็นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่ได้รับจากคณะผู้บริหารที่ศูนย์รังสิต ใบเสร็จรับเงิน ที่ออกโดยศูนย์การศึกษาศูนย์รังสิต ให้กับ ดร.อิทธิ ทำการตรวจสอบ ซึ่งทันทีที่ ดร.อิทธิ ทำการตรวจสอบนั้น ยืนยันว่า ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่นายสายชลได้รับจากคณะผู้บริหารที่ศูนย์รังสิตนั้นเป็นของปลอม ซึ่งได้ทำการปลอมแปลงขึ้นมา โดยมีจุดสังเกตที่ชัดเจนคือ แผ่นกระดาษไม่มีโลโก้สัญลักษณ์ปรากฏ ตรายางที่เป็นรอยประทับก็ไม่ใช่ของวิทยาลัย ลายเซ็นของตนก็ไม่ใช่

จากนั้น ดร.อิทธิ สีวันนู ผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยฯ ได้โทรสายตรงถึงอาจารย์ท่านหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับศูนย์รังสิต ซึ่ง นายสายชล ยืนยันว่าเป็นคนให้ข้อมูลว่าเอกสารทุกอย่างเป็นของจริงที่ผู้บริหารและผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน  ที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ออกให้กับนักเรียนรุ่นเดียวกัน จำนวน 30 คน ซึ่งจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ อาจารย์ท่านดังกล่าวยืนยันว่า มีการพูดคุยกับผู้อำนวยการวิทยาลัยในการเปิดศูนย์รับสมัครและสอนนักเรียนที่ศูนย์รังสิตแล้ว จึงทำการเปิดสอนจนนักเรียนจบหลักสูตร ดร.อิทธิ จึงตอบกลับว่า วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ไม่เคยทำข้อตกลงหรือทำเอ็มโอยูเปิดศูนย์เพื่อรับสมัครและทำการสอนที่ใดเพิ่ม มีเพียงการรับนักเรียนของซีพีออลล์เท่านั้น ฉะนั้นเรื่องของนายสายชล จึงเป็นการหลอกลวงประชาชน

ดร.อิทธิ สีวันนู ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ได้ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดแล้ว เป็นของปลอมทั้งหมด บิลเงินสดที่ผู้รับเงินออกให้นักเรียนที่จ่ายเงินค่าเทอมก็เป็นบิลเงินสดที่ซื้อเล่มตามท้องตลาด ไม่ใช่ใบเสร็จของวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน อย่างไรก็ตาม ได้รับเรื่องของนายสายชลแล้ว และจะทำเรื่องให้ ผศ.ดร.ณฐกรณ์ อนันต์วรจินดา ผู้อำนวยการวิทยาลัย ลงนามในหนังสือว่า กรณีนายสายชลมาขอตรวจสอบเรื่องวุฒิการศึกษานั้น วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ขอยืนยันว่าตรวจสอบแล้วในรายชื่อของนักเรียน ไม่มีรายชื่อนายสายชล และวุฒิการศึกษาที่นายสายชลได้รับจากผู้บริหารศูนย์รังสิต เป็นของปลอมทั้งหมด เมื่อหนังสือดำเนินการเรียบร้อยจะดำเนินการจัดส่งให้นายสายชลโดยเร็ว ซึ่งโดยส่วนตัวก็กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้างชื่อวิทยาลัย ปลอมแปลงลายเซ็น และปลอมเอกสารทั้งหมดหรือไม่

“วิทยาลัยอาชีวะไม่ว่าเอกชนหรือของรัฐ ที่สอนระดับ ปวช. ปวส. หรือต่ำกว่าระดับปริญญาตรีนั้น ตามพระราชบัญญัติการศึกษาไม่มีการอนุญาตให้ตั้งศูนย์ หรือให้มีการเรียนการสอนนอกสถานที่ การจะมีศูนย์ได้คือระดับอุดมศึกษาขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน การขอตั้งศูนย์การศึกษาระดับอุดมศึกษาก็ค่อนข้างยาก จะต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง กรณีที่บอกว่ามีศูนย์นั้น คือมีการปลอมแปลงขึ้นมา และที่เขาอ้างว่ามีการทำ MOU กับสถาบันต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้ววิทยาลัยไม่มี ไม่ได้ทำ โดยเปิดวิทยาลัยมาตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ก็ไม่เคยมีลักษณะแบบนี้ มีน้อยก็สอนน้อย ซึ่งต่อมาได้มีการทำ MOU กับ CP ALL แห่งเดียวเท่านั้น มีการเรียนการสอนแบบทวิศึกษา คือเด็กที่จบปวช. หรือ ม. 6 มาเรียนที่วิทยาลัย 1 ภาคเรียน ภาคเรียนที่ 2 ที่ 3 ไปเรียนกับ CP ALL ที่กรุงเทพฯ ภาคเรียนที่ 4 จึงมาเรียนที่วิทยาลัยและจบที่วิทยาลัย ในหลักสูตรค้าปลีกเท่านั้น ที่อื่นๆ ไม่มี”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *